คณะกรรมการจัดการและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ (NDRRMC) เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บอีก 4 รายจากพายุไต้ฝุ่นมังคุดที่พัดเข้าถล่มทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ในช่วงเช้าวันนี้
NDRRMC ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตอบสนองเหตุฉุกเฉิน 2 รายเสียชีวิตในเหตุการณ์ดินถล่มที่เขตปกครองคอร์ดิลเลราของเกาะลูซอน ขณะที่ผู้เสียชีวิตอีกรายเป็นเด็กหญิง ซึ่งเสียชีวิตจากการจมน้ำในแม่น้ำมาริกินาในเมโทร มะนิลา
ริคาร์โด จาลัด กรรมการบริหารของ NDRRMC กล่าวว่าจำนวนผู้เสียชีวิตได้มาจากรายงานเบื้องต้น และยอมรับว่าจำนวนดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นอีก
ทางสำนักงานจัดการภัยพิบัติรายงานว่า เกิดเหตุดินถล่มในกว่า 40 จุดในคอร์ดิลเลรา นอกจากนี้ไต้ฝุ่นยังได้ทำลายบ้านเรือน ทำให้ต้นไม้หักโค่น และส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 600,000 คนในหลายหมู่บ้านทางเหนือของฟิลิปปินส์ ต้องอพยพหนีภัยจากพายุ ขณะที่เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ ชาวฟิลิปปินส์เกือบ 5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่น โดยส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและชาวประมงจากจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือของประเทศ
รายงานระบุว่า ประชาชนมากกว่า 64,000 คนได้รับการอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว เมื่อพายุไต้ฝุ่นพัดเข้าถล่มหมู่เกาะลูซอนทางเหนือของประเทศ
เที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศหลายเที่ยวบินถูกระงับบริการหลายชั่วโมงนับตั้งแต่วันศุกร์ ส่วนโรงเรียนและหน่วยงานรัฐบาลได้ประกาศหยุดเรียนและหยุดงาน
ซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดขึ้นฝั่งที่เกาะลูซอน เมื่อเวลา 13.40 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันเสาร์ และคาดว่าจะเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ในช่วงบ่ายหรือค่ำวันเสาร์
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เผชิญกับพายุประมาณ 20 ลูกในแต่ละปี