รัฐมนตรีการคลังจากกลุ่มประเทศ G20 เตรียมจัดการประชุมที่กรุงบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือกันในประเด็นด้านความเสี่ยงต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
สหรัฐและจีน ซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ต่างก็ประกาศบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกัน โดยมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่งของสินค้าที่สหรัฐซื้อจากจีน โดยมีเป้าหมายที่จะจัดการกับการค้าที่ไม่เป็นธรรม และยังขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก โดยแนวทางอันแข็งกร้าวของทรัมป์ในการแก้ไขปัญหาการขาดดุลทางการค้าของสหรัฐนั้น ยังส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ เช่นญี่ปุ่น ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บนำเข้าภาษีรถยนต์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลาดการเงินจับตาว่าการประชุม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันจนถึงวันศุกร์นี้ รมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 จะสามารถผลักดันให้เกิดการปรองดองระหว่างสหรัฐและจีนได้หรือไม่
กลุ่ม G20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล อังกฤษ แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่รีสอร์ทนุสา ดูอา ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และผลกระทบที่มีต่อกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่