แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า จีนเตรียมผ่อนคลายคำสั่งห้ามนำเข้าอาหารจากญี่ปุ่น ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่เกิดวิกฤตด้านนิวเคลียร์ที่เมืองฟูกูชิมะเมื่อปี 2554 ท่ามกลางสัญญาณของความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างสองประเทศ
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ตั้งเป้าที่จะบรรลุข้อตกลงดังกล่าวระหว่างการเข้าพบกับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน ที่กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 26 ต.ค. หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายอาเบะได้ขอให้จีนยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าอาหารเป็นการถาวร โดยระบุว่าอาหารจากญี่ปุ่นได้รับการยืนยันทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าปลอดภัย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จีนระงับการนำเข้าอาหารและอาหารสัตว์แช่แข็งที่ผลิตใน 10 จังหวัดของญี่ปุ่น จากทั้งหมด 47 จังหวัดเนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี หลังเกิดวิกฤตการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิชิ อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหวรุนแรงและคลื่นยักษ์สึนามิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อเดือนมี.ค. 2554
นอกจากนี้ จีนยังได้ขอใบรับรองระบุแหล่งที่มาของอาหารที่นำเข้าจากจังหวัดอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
แหล่งข่าวระบุว่า จีนได้แจ้งแผนการผ่อนคลายกฎระเบียบในการนำเข้าอาหารผ่านช่องทางการทูต และขณะนี้ เจ้าหน้าที่จีนกำลังหารือว่าจะผ่อนคลายการนำเข้าอาหารเมื่อไรและอย่างไร
เมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่าน นายอาเบะและนายหลี่เห็นพ้องที่จะจัดตั้งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเพื่อถอดถอนหรือผ่อนคลายมาตรการห้ามนำเข้าสินค้า
ในระหว่างการเดินทางเยือนจีนเป็นเวลา 3 วัน จนถึงวันที่ 27 ต.ค. นายอาเบะจะเข้าพบกับประธานาธิบดีจิ้น สี ผิง เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปีของการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพและมิตรภาพระหว่างญี่ปุ่นกับจีน