นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า การเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับจีนยังคงไม่มีความคืบหน้า
"พวกเขาเป็นพ่อค้าที่ดำเนินการอย่างไม่ยุติธรรม และทำผิดกฎหมาย พวกเขาได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของเรา และจีนก็ไม่ได้ตอบสนองในทางที่ดีต่อสิ่งที่เราร้องขอ" นายคุดโลว์กล่าว
"อเมริกามีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งถือเป็นกระดูกสันหลังของเรา แต่จีนไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงขโมยมัน และเราจะไม่อนุญาตให้สิ่งนี้เกิดขึ้น" เขากล่าว ก่อนการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.
การเจรจาดังกล่าวจะมีขึ้น ท่ามกลางการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้ประกาศรายการสินค้าจำนวน 1,100 รายการของจีนที่ต้องถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยสินค้าล็อตแรกจำนวน 818 รายการ วงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนการเรียกเก็บภาษีสินค้าล็อตที่ 2 วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์มีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค. ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน ในวันที่ 17 ก.ย. ปธน.ทรัมป์ก็ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนครั้งใหม่ในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยเรียกเก็บในอัตรา 10% ซึ่งได้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ก.ย. และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า ขณะที่รัฐบาลจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐในอัตรา 5-10% คิดเป็นวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ก.ย.เช่นกัน ต่อมา ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ ถ้าหากจีนได้ทำการตอบโต้ต่อการเรียกเก็บภาษีก่อนหน้านี้ของสหรัฐ ทั้งนี้ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากที่เรียกเก็บภาษีสินค้าวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 2 แสนล้านดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ก็เท่ากับว่าสหรัฐได้เรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่จีนส่งเข้าไปยังสหรัฐ โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า จีนได้ส่งออกสินค้าวงเงิน 5.05 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่สหรัฐในปีที่แล้ว