นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ทวีตข้อความระบุว่า เขาได้ตัดสินใจยกเลิกการเข้าร่วมงานประชุม Future Investment Initiative (FII) ที่กรุงริยาด ซาอุดิอาระเบีย หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขายืนยันว่าจะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
นายมนูชินระบุว่า เขาได้ตัดสินใจดังกล่าว หลังทำการหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ
อย่างไรก็ดี นายมนูชินไม่ได้ระบุเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจยกเลิกการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้
ทั้งนี้ การประชุม FII ถือเป็นการจัดประชุมภาคธุรกิจครั้งใหญ่ของซาอุดิอาระเบีย โดยมีวิทยากรกว่า 150 รายจาก 140 องค์กรเข้าร่วมงาน
ทางด้านผู้นำของหลายประเทศ และบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง พากันยกเลิกการเข้าร่วมงานดังกล่าว หลังเกิดกรณีการหายตัวไปของนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวซาอุดิอาระเบีย ระหว่างเข้าไปติดต่อธุระที่สถานกงสุลซาอุดิอาระเบียในนครอิสตันบูล ขณะที่มีรายงานว่า ซาอุดิอาระเบียส่งมือสังหารจำนวน 15 คนเพื่อทรมาน และฆาตกรรมนายคาช็อกกี
นายคาช็อกกีเป็นคอลัมนิสต์ของนสพ.วอชิงตัน โพสต์ และได้ลี้ภัยไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศเมื่อปีที่แล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม จากการที่เขามักวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองในซาอุดิอาระเบีย
หนังสือพิมพ์เยนิ ซาฟัค ซึ่งให้การสนับสนุนรัฐบาลตุรกี รายงานว่า นายคาช็อกกีได้ถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมก่อนถูกสังหารระหว่างการสอบสวนที่สถานกงสุลซาอุดิอาระเบียประจำนครอิสตันบูล
ทั้งนี้ เยนิ ซาฟัคระบุว่า นายคาช็อกกีได้ถูกตัดนิ้วมือหลายนิ้วในระหว่างการสอบสวน และต่อมาถูกตัดศีรษะ ก่อนที่ทีมสังหารจะทำการตัดอวัยวะเพื่อแยกชิ้นส่วนในร่างกายของเขา
เยนิ ซาฟัคบรรยายรายละเอียดการทรมานดังกล่าว โดยอ้างว่ามาจากเทปบันทึกเสียงระหว่างการสอบสวนนายคาช็อกกี
ทางด้านหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์สรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของตุรกีรายหนึ่งได้ยืนยันรายงานดังกล่าว
ทางการตุรกียังไม่ได้ส่งมอบวัตถุพยานซึ่งเป็นภาพและเสียงที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายคาช็อกกีให้แก่สหรัฐและยุโรป