นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น และ นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ทั้งสองประเทศจะสนับสนุนความเป็นพันธมิตรระหว่างนิสสัน มอเตอร์ และ เรโนลต์ เอสเอ ต่อไป แม้จะเกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการประพฤติมิชอบทางการเงิน จนทำให้นายคาร์ลอส กอส์น ประธานนิสสันถูกจับกุมและปลดออกจากตำแหน่งก็ตาม
ในแถลงการณ์ร่วมซึ่งถูกเผยแพร่ออกมาหลังเสร็จสิ้นการหารือที่ปารีส ระบุว่า "ทั้งรัฐบาลฝรั่งเศสและรัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันที่จะให้การสนับสนุนความเป็นพันธมิตรระหว่างเรโนลต์และนิสสัน รวมถึงเจตนารมณ์ของพวกเขาที่ต้องการรักษาความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จนี้เอาไว้"
นายเซโกะกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมว่า "เรายืนยันว่า มันสำคัญมากที่ความสัมพันธ์ฉันพันธมิตรจะต้องดำเนินต่อไปอย่างมีเสถียรภาพ"
นอกจากนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเรโนลต์ ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 15% ยังเรียกร้องให้เสริมสร้างความเป็นพันธมิตร ซึ่งมีมิตซูบิชิ มอเตอร์ รวมอยู่ด้วย ให้แข็งแกร่งมากขึ้น
การหารือระหว่างรัฐมนตรีครั้งนี้มีขึ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่าการพิจารณาปลดนายกอส์นพ้นตำแหน่งประธานนิสสัน อาจกระทบต่ออนาคตของกลุ่มพันธมิตรผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสามแห่ง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายกอส์น ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่งซีอีโอของเรโนลต์อยู่นั้น ถือว่ายังคงเป็นแกนนำของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยเรโนลต์ อย่างไรก็ดี ภายในนิสสันเองก็ยังคงมีความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเรโนลต์ได้เข้ามามีอิทธิพลเป็นอย่างมาจากต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจของนิสสัน โดยเรโนลต์ถือหุ้นอยู่ในนิสสันมากถึง 43.4% ส่วนนิสสันมีหุ้นอยู่ในเรโนลต์แค่เพียง 15%