ผลการสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสระบุว่า ชาวอเมริกัน 51% ตำหนิประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) โดยจำนวนดังกล่าวเพิ่มขึ้น 4% จากการสำรวจก่อนหน้านี้ ขณะที่ 32% ตำหนิสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส และ 7% ตำหนิสมาชิกพรรครีพับลิกัน
ขณะนี้ การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 19 เนื่องจากทำเนียบขาวและแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์
บริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ เตือนว่า สหรัฐอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจากระดับ Aaa ในปีนี้ โดยปัญหาการปิดหน่วยงานของรัฐบาลอาจส่งผลกระทบต่อเพดานหนี้ของประเทศ
"หากภาวะชัตดาวน์ยังคงดำเนินไปจนถึงวันที่ 1 มี.ค. และส่งผลให้เพดานหนี้กลายเป็นปัญหาในอีกหลายเดือนต่อมา เราอาจจำเป็นต้องเริ่มคิดกันถึงกรอบนโยบาย และการที่รัฐบาลอาจไม่สามารถผลักดันงบประมาณผ่านรัฐสภา และดูว่าสิ่งเหล่านี้จะสอดคล้องกับอันดับเครดิตที่ Aaa หรือไม่" นายเจมส์ แมคคอร์แมค หัวหน้าฝ่ายจัดอันดับความน่าเชื่อถือของฟิทช์ กล่าว
นอกจากนี้ ฟิทช์ระบุว่า การจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐจะขึ้นอยู่กับการที่ภาวะชัตดาวน์มีแนวโน้มที่จะสร้างความไร้เสถียรภาพต่อนโยบายการคลังหรือไม่ และความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและสภาคองเกรสจะส่งผลกระทบต่อเพดานหนี้ของสหรัฐหรือไม่