นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทแอปเปิล อิงค์ กล่าวว่า แอปเปิลมีแผนที่จะปรับลดราคา iPhone ซึ่งจะเป็นการปรับลดราคาเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่มีการเปิดตัว iPhone
อย่างไรก็ดี แอปเปิลยังไม่ได้ประกาศว่าจะมีการปรับลดราคา iPhone รุ่นใด, เมื่อใด และในประเทศใด
ทั้งนี้ การปรับลดราคาดังกล่าว จะมีผลสำหรับตลาดภายนอกสหรัฐ โดยแอปเปิลจะปรับโครงสร้างราคาให้มีการตั้งราคาโดยอิงกับสกุลเงินท้องถิ่นของประเทศต่างๆ แทนที่จะอิงกับดอลลาร์ซึ่งแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่แอปเปิลจะรับภาระปัจจัยการแข็งค่าของดอลลาร์ แทนที่จะผลักภาระให้ลูกค้า
นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่แอปเปิลอาศัยกลยุทธ์การปรับลดราคาในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทกำลังเผชิญกับยอดขาย iPhone ที่ตกต่ำในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในจีน ซึ่งที่ผ่านมา การที่แอปเปิลตั้งราคา iPhone โดยอิงกับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งแข็งค่าขึ้น 10% ในปีที่แล้ว ได้ทำให้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลมีราคาแพงกว่าคู่แข่ง
แอปเปิลเคยปรับลดราคา iPhone เพียง 1 ครั้งก่อนหน้านี้ คือในช่วงหลังจากเปิดตัว iPhone ในปี 2550 ได้เพียงไม่นาน
ก่อนหน้านี้ แอปเปิลส่งสัญญาณยอดขาย iPhone ที่ซบเซา โดยระบุว่า บริษัทจะยุติการแจ้งยอดขายจำนวนเครื่อง iPhone, iPad และ Mac ในการรายงานผลประกอบการรายไตรมาส
นักวิเคราะห์เตือนว่า การที่แอปเปิลประกาศเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรายงานผลประกอบการดังกล่าว เป็นการแสดงว่าบริษัทอาจต้องการปกปิดบางสิ่งบางอย่าง ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า สิ่งนี้เป็นการส่งสัญญาณว่าแอปเปิลกำลังคาดการณ์ยอดขาย iPhone ที่ตกต่ำ และกลยุทธ์ในการออก iPhone รุ่นที่มีราคาแพงเพื่อหวังชดเชยกับการลดลงของจำนวนเครื่องที่จำหน่ายได้นั้น จะไม่ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ แอปเปิลประกาศแผนปรับลดราคา iPhone เมื่อวานนี้ หลังจากที่รายงานผลประกอบการลดลงในไตรมาสแรกของปีงบการเงินบริษัท ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี
แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2562 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ธ.ค.2561 ตามปีงบการเงินของบริษัท โดยระบุว่า รายได้ลดลง 5% สู่ระดับ 8.43 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้รายได้ของแอปเปิลดิ่งลงนั้น มาจากยอดขาย iPhone ในจีนที่ลดลง 15% ในไตรมาสดังกล่าว
ส่วนรายได้จากยอดขาย iPhone ในไตรมาส 1 อยู่ที่ 5.198 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 5.267 หมื่นล้านดอลลาร์
เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการประกาศยอดขาย iPhone ในครั้งนี้ แอปเปิลไม่ได้เปิดเผยจำนวนเครื่องที่จำหน่ายได้ในไตรมาสดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามที่บริษัทเคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะยกเลิกการแจ้งยอดขายจำนวนเครื่อง iPhone, iPad และ Mac ในการรายงานผลประกอบการรายไตรมาส
อย่างไรก็ตาม แอปเปิลเปิดเผยว่า รายได้จากธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มขึ้น 19% ในไตรมาส 1 โดยรายได้จากการให้บริการแอปเปิล เพย์, แอปเปิล มิวสิก และไอคลาวด์ พุ่งขึ้น 19% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.09 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ แอปเปิลคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 2/2562 ตามปีงบการเงินของบริษัท จะอยู่ในช่วง 5.5-5.9 หมื่นล้านดอลลาร์