โอกินาว่าเริ่มเปิดให้มีการลงประชามติครั้งแรกในโอกินาว่าเรื่องแผนการย้ายฐานทัพสหรัฐในวันนี้
แม้ว่าผลที่ได้จะไม่มีผลผูกพันธ์กับรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งมีแผนจะสร้างย้ายฐานทัพอากาศฟูเทนมะไปยังบริเวณอื่นของเกาะ แต่นายเดนนี ทามากิผู้ว่าราชการจังหวัดโอกินาว่าหวังว่าผลการลงประชามติจะแสดงให้เห็นถึงการคัดค้านของประชาชนท้องถิ่นและช่วยให้เขาสามารถต่อสู้เพื่อหยุดการย้ายฐานทัพได้
ทั้งนี้ ผู้อยู่อาศัยในโอกินาว่าที่มีสัญชาติญี่ปุ่นและมีอายุเกิน 18 ปีขึ้นไปที่มีสิทธิ์ลงประชามติมีประมาณ 1.15 ล้านคน จะทำการลงประชามติเพื่อเป็นการตอบคำถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการย้ายฐานทัพไปยังบริเวณชายฝั่งเฮโนโกะ โดยสามารถเลือกได้สามตัวเลือกคือ "ใช่" "ไม่ใช่" หรือ "ไม่ใช่ทั้งสองข้อ"
ตามกฎหมายการลงประชามติ ระบุให้รัฐบาลโอกินาว่าปฏิบัติตามผลการลงประชามติถ้าเกิดมีตัวเลือกใดได้รับเลือกเกินกว่า 1 ใน 4 ของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน หรือประมาณ 290,000 เสียง ผลที่ได้จะถูกแจ้งให้กับนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นและประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แผนที่จะย้ายฐานทัพอากาศฟูเทนมะออกจากบริเวณที่อยู่อาศัยหนาแน่นในเกาะโอกินาว่าไปยังบริเวณที่มีผู้อยู่อาศัยน้อยกว่าแถวชาวฝั่งเฮโนโกะในนาโกะ เกิดขึ้นในข้อตกลงระหว่างรัฐบาลสหรัฐและญี่ปุ่นในปี 2539 หลังเกิดเหตุทหารอเมริกัน 3 นายข่มขืนนักเรียนหญิงวัย 12 ปีเมื่อปี 2538 ซึ่งทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นโกรธแค้นอย่างมาก
ทั้งนี้ ประชาชนชาวโอกินาว่าไม่ต้องการให้ย้ายฐานทัพไปยังบริเวณอื่นของเกาะ แต่ต้องการให้ย้ายออกไปจากเกาะโอกินาว่าเลย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงยึดแผนการย้ายฐานทัพไว้ และกล่าวว่าเป็นเพียงทางออกเดียวที่จะขจัดอันตรายจากฐานทัพอากาศฟูเทนมะโดยไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐ และได้ระบุว่าผลการทำประชามติจะไม่มีส่วนในการตัดสินใจเรื่องนี้