นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้เรียกร้องให้แกนนำสภาคองเกรสปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลาง ขณะที่ทางกระทรวงเริ่มดำเนินการด้านบัญชีเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายมนูชินได้ส่งจดหมายถึงบรรดาแกนนำในสภาคองเกรส โดยระบุว่า กระทรวงการคลังสหรัฐได้เริ่มเข้าสู่ "ช่วงเวลาของการระงับการออกตราสารหนี้" ซึ่งมีระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
นายมนูชินกล่าวว่า กระทรวงการคลังได้ระงับการลงทุนในกองทุนที่ให้ผลประโยชน์บางกองทุนสำหรับพนักงานของรัฐบาลกลางและผู้เกษียณอายุ พร้อมระบุว่า ทันทีที่เพดานหนี้ได้รับการปรับเพิ่มหรือถูกระงับ กองทุนเหล่านั้นก็จะสามารถดำเนินการต่อไปได้
"ผมขอเรียกร้องให้สภาคองเกรสช่วยปกป้องความเชื่อมั่นศรัทธาและความน่าเชื่อถือของสหรัฐด้วยการเร่งปรับเพิ่มเพดานหนี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นายมนูชินกล่าว
สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับจดหมายของนายมนูชินนั้น รวมถึงนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ, นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา, นายเควิน แมคคาร์ธี ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และสมาชิกคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (House Ways and Means Committee) ทางด้านสำนักงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กระทรวงการคลังสหรัฐอาจหมดเงินงบประมาณภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ นอกเสียจากว่า สภาคองเกรสจะสามารถขยายระยะเวลาระงับการก่อหนี้ หรือเพิ่มเพดานหนี้