นางแด็กมาวิต โมเกส รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของเอธิโอเปียได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ผลการตรวจสอบกล่องดำของเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 8 เที่ยวบิน ET 302 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ ซึ่งประสบอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 157 รายนั้น มีความคล้ายคลึงกันอย่างชัดเจนกับเครื่องบินรุ่นดังกล่าวของสายการบินไลอ้อนแอร์ ซึ่งเกิดอุบัติเหตุตกลงนอกชายฝั่งอินโดนีเซียในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 189 ราย
รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เปิดเผยอีกด้วยว่า ผลการตรวจสอบดังกล่าวจะนำไปศึกษาเพิ่มเติมต่อไป โดยจะมีการเปิดเผยรายงานเบื้องต้นภายในอีก 30 วัน
ทั้งนี้ เครื่องบินของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ได้ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนักบินได้นำเครื่องขึ้นบินเพียง 15 นาที ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือน 157 รายเสียชีวิตทั้งหมด
หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงคมนาเอธิโอเปียออกแถลงการณ์ได้ไม่นาน บริษัทโบอิ้งก็ออกมาเปิดเผยว่า ทางบริษัทกำลังอัพเดทซอฟต์แวร์และปรับปรุงการฝึกฝนนักบินที่เกี่ยวข้องกับระบบควบคุมการบิน MCAS (Maneuvering Characteristics Augmentation System) ในเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max โดยการดำเนินการกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย หลังจากเครื่องบินรุ่นดังกล่าวประสบอุบัติเหตุตก 2 ครั้งภายในเวลาไม่ถึง 5 เดือน
นายเดนนิส มุยเลนเบิร์ก ประธานและซีอีโอของบริษัทโบอิ้ง กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ทางบริษัทโบอิ้งกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการอัพเดทซอฟต์แวร์และปรับปรุงการฝึกฝนนักบิน ซึ่งจะช่วยให้สามารถจัดการกับพฤติกรรมการควบคุมเที่ยวบินที่ใช้ระบบ MCAS ในกรณีที่ต้องตอบสนองต่อข้อมูลเซนเซอร์ที่ผิดพลาด"
ทั้งนี้ MCAS เป็นระบบความปลอดภัยอัตโนมัติสำหรับเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 Max และถูกออกแบบเพื่อให้เครื่องบินสามารถหลีกเลี่ยงภาวะสูญเสียการทรงตัว