เฟซบุ๊ก กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีที่มีผู้นำไปโพสต์คลิปของผู้ก่อเหตุโจมตีมัสยิดในประเทศนิวซีแลนด์ โดยเฟซบุ๊กและโซเชียลมีเดียอื่นๆกำลังถูกกดดันให้เลิกเปิดพื้นที่ให้กลุ่มหัวรุนแรงนำไปใช้โฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งรวมถึงการก่อการร้าย ขณะที่สื่อนิวซีแลนด์รายงานว่า ธนาคารรายใหญ่ๆของประเทศได้ถอดโฆษณาออกจากเฟซบุ๊กแล้ว รวมถึงกูเกิลด้วยเช่นกัน
นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ แถลงต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเหล่านี้ต้องเข้ามารับผิดชอบด้วย มิใช่เข้ามาหวังกำไรเพียงอย่างเดียว เพราะแพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นผู้เผยแพร่ ไม่ใช่เพียงสื่อกลางในการรับส่งข้อมูล
ด้านนายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้เรียกร้องให้ชาติสมาชิกกลุ่ม G20 ใช้เวทีประชุมในเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางจัดการปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ เกิดเหตุมือปืนกราดยิงที่มัสยิด 2 แห่งในเมืองไคร์สเชิร์ชของนิวซีแลนด์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังมีผู้เข้าร่วมทำการละหมาดจำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 50 คน
หนึ่งในกลุ่มมือปืนได้ทำการไลฟ์สดเหตุการณ์โจมตีดังกล่าวบนเฟซบุ๊ก ที่แสดงให้เห็นว่า มือปืนได้เดินเข้าไปในมัสยิด และกราดยิงเข้าใส่ผู้ที่กำลังทำการละหมาด
เฟซบุ๊กได้ลบบัญชีผู้ใช้ของมือปืนรายนี้แล้ว และลบโพสต์อื่น ๆ จำนวนมากที่มีการแชร์ภาพวิดีโอดังกล่าวด้วย
ด้านทวิตเตอร์ได้ทำการลบโพสต์วิดีโอต้นฉบับดังกล่าว และระงับบัญชีผู้ใช้ที่แชร์ภาพดังกล่าวในทวิตเตอร์ โดยระบุว่า ผู้ใช้ได้ละเมิดนโยบายห้ามการเผยแพร่คอนเทนต์และภาพที่สร้างความเกลียดชังและความหวาดกลัว