กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐแตะระดับ 2.34 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ยอดขาดดุลดังกล่าวเพิ่มขึ้น 8.7% จากเดือนก.พ.ของปี 2561 และในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 ซึ่งเริ่มในวันที่ 1 ต.ค. ยอดขาดดุลทั้งสิ้นอยู่ที่ 5.442 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39% จากปี 2561
ยอดค่าใช้จ่ายรวมในเดือนก.พ.อยู่ที่ 4.01 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน และ รายได้รวมอยู่ที่ 1.67 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 50.9%
สำหรับค่าใช้จ่ายสูงสุด 3 อันดับแรกในเดือนก.พ.ได้แก่ ค่าใช้จ่ายด้านประกันสังคม 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ค่าใช้จ่ายในการประกันรายได้ 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน และ ค่าใช้จ่ายในด้านการป้องกันประเทศ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับงบประมาณปี 2563 ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอต่อสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น คาดว่า ยอดขาดดุลจะแตะระดับ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณดังกล่าว
การเสนองบประมาณวงเงิน 4.7 ล้านล้านดอลลาร์ดังกล่าว รวมถึงการปรับลดค่าใช้จ่ายของหน่วยงานรัฐที่ไม่เกี่ยวกับการป้องกันประเทศ และการเพิ่มค่าใช้จ่ายในด้านการป้องกันประเทศ รวมถึงการเสนอปรับลดภาษีลงอย่างถาวรด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงบประมาณสภาคองเกรสประมาณการในเดือนม.ค.ว่า เนื่องจากสหรัฐมียอดขาดดุลในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงคาดว่าหนี้สาธารณะ จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แตะระดับ 93% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2572 และประมาณ 150% ของ GDP ในปี 2592