สำนักงานการบินพลเรือนสหรัฐ (FAA) ให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงการควบคุมความปลอดภัยทางอากาศ หลังเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max 2 ลำประสบอุบัติเหตุตกในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระบวนการอนุมัติเครื่องบินนั้น อาจเกิดความผิดพลาดได้
นายคาลวิน สโคเวล ผู้ตรวจสอบทั่วไปของกระทรวงคมนาคมสหรัฐได้กล่าวในระหว่างการให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการพาณิชย์ฝ่ายกิจการความปลอดภัยทางอากาศแห่งวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า FAA จะเปลี่ยนแนวทางการกำกับดูแลอย่างมากภายในเดือนก.ค.
นายสโคเวลเสนอรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับการยกเครื่องใหม่ แต่ได้แนะว่า กระบวนการใหม่อาจระบุถึงกระบวนการตรวจสอบตัวเองของบริษัทและพัฒนาเกณฑ์การประเมินใหม่
ทางด้านนายแดเนียล เอลเวล รักษาการณ์ผู้อำนวยการ FAA เห็นด้วยว่า แนวทางการกำกับดูแลของบริษัทตัวแทน จำเป็นต้องพัฒนามีการพัฒนา แต่เขาได้กล่าวปกป้องโปรแกรมที่เป็นที่ถกเถียงของ FAA ที่เรียกว่าการอนุญาตข้อกำหนดองค์กร (ODA) ที่ยอมให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินสามารถให้พนักงานของตัวเองตรวจสอบความปลอดภัยได้
ทั้งนี้ นายเอลเวลอ้างว่า ODA ไม่ใช่ "การรับรองตัวเอง" เนื่องจาก FAA มีส่วนร่วมโดยตรงในการตรวจสอบซอฟต์แวร์ป้องกันการตกของโบอิ้ง 737 MAX โดยเชื่อกันว่าความผิดพลาดในระบบซอฟต์แวร์ทำให้เครื่องบินของสายการบินไลอ้อนแอร์ตกเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว และถูกสงสัยว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ตกเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา
วุฒิสมาชิกริชาร์ด บลูเมนธัล ได้เรียกกระบวนการตรวจสอบโดยบุคคลภายนอกว่าเป็น ระบบที่ผิดพลาด เป็นการฝากปลาย่างไว้กับแมว และวุฒิสมาชิกเท็ด ครูซกล่าวว่า ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างอุตสาหกรรมกับผู้มีอำนาจควบคุมได้บ่อนทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน สำนักข่าวซินหัวรายงาน