ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้หารือร่วมกับพลเอกเจนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ โดยปธน.ทรัมป์ยังคงเรียกร้องให้ประเทศพันธมิตรในยุโรปเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหาร
ปธน.ทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวระหว่างการประชุมว่า ประเทศสมาชิกชาติอื่นๆของนาโต จ่ายเงินด้านการทหารมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันปธน.ทรัมป์อ้างว่า สหรัฐจ่ายเงินในสัดส่วนที่สูงมากและไม่เหมาะสม
"เราจะร่วมมือกันเพื่อผลักดันให้พันธมิตรของเราบางประเทศจ่ายเงินในสัดส่วนที่ยุติธรรม เป็นการแบ่งเบาภาระ พวกเขากำลังดำเนินการ" ปธน.ทรัมป์กล่าว
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เยอรมนีไม่ปฏิบัติตาม โดยไม่ยอมจ่ายในส่วนที่ควรจะจ่าย
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังแนะนำให้นาโตเพิ่มมาตรฐานการใช้จ่ายทางทหารเพิ่มขึ้นจากระดับ 2%
"ผมคิดว่า นาโตจะต้องเพิ่มงบประมาณสูงกว่านั้น" ปธน.ทรัมป์กล่าว
พลเอกสโตลเทนเบิร์กเปิดเผยว่า ณ สิ้นปี 2563 สมาชิกนาโต 28 ประเทศ นอกเหนือจากสหรัฐนั้น จะเพิ่มเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์สำหรับงบประมาณด้านการทหาร โดยพลเอกสโตลเทนเบิร์กยอมรับความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งอย่างมากของปธน.ทรัมป์ในการแบ่งเบาภาระ
ทำเนียบขาวเปิดเผยแถลงการณ์ระบุว่า ปธน.ทรัมป์และพลเอกสโตลเทนเบิร์กได้หารือเรื่องการต่อต้านการก่อการร้าย ประเด็นรัสเซีย และภัยคุกคามทางไซเบอร์ ในระหว่างการเจรจาครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ พลเอกสโตลเทนเบิร์กอยู่ในกรุงวอชิงตันเพื่อเข้าร่วมการเจรจาระดับรัฐมนตรีต่างประเทศเป็นเวลา 2 วัน เพื่อฉลองครบรอบ 70 ปีของนาโต และคาดว่า เขาจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมร่วมของสภาคองเกรสในวันนี้
ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวหาประเทศสมาชิกนาโตมาโดยตลอดว่า ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการจ่ายเงินสมทบด้านการทหารในอัตราส่วน 2%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประเทศพันธมิตรของนาโตในยุโรปได้จ่ายเงินสมทบด้านการทหารเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในปี 2560 แต่ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการใช้จ่ายเงินสมทบด้านการทหารที่ระดับ 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)