ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน โดยเขาได้ให้ความสำคัญมากที่สุดกับการรับประกันว่า จีนจะเผชิญกับผลกระทบที่ตามมา หากไม่ปฏิบัติตามสัญญาในข้อตกลง และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ปธน.ทรัมป์อาจต้องให้อำนาจใหม่กับจีน เพื่อใช้กับบริษัทสหรัฐ และจะส่งผลกระทบอีกครั้งต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐได้ให้คำมั่นกับจีน และตกลงว่าทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการตามกลไกการบังคับใช้ข้อตกลง ขณะที่สหรัฐจะเปิดรับต่อผลกระทบที่จะตามมา แต่เขาไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของคำมั่นสัญญาของสหรัฐและกลไกการบังคับใช้ข้อตกลง ซึ่งก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักวิชาการด้านกฏหมาย วงการธุรกิจ และสภาคองเกรส
นายเดเนียล ไพร์ซ อดีตที่ปรึกษาเศรษฐกิจอาวุโสของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทร็อค ครีก โกลบอล แอดไวเซอร์กล่าวว่า หากสหรัฐอนุญาตให้จีนมีอำนาจบังคับใช้ข้อตกลงซึ่งกันและกัน ก็จะทำให้ผู้พิพากษา คณะลูกขุน และผู้บังคับคดีของจีน สามารถพิจารณาว่า สหรัฐเคารพต่อข้อผูกมัดหรือไม่
นายไพรซ์กล่าวด้วยว่า เขาไม่คิดว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐจะตื่นตัวเพียงพอต่อความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับการถูกจีนบังคับใช้ข้อตกลงแต่เพียงฝ่ายเดียวอย่างต่อเนื่อง