เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นได้รุดเข้าตรวจสอบสำนักงานใหญ่ของบริษัทซูซูกิ มอเตอร์ส คอร์ป ในวันนี้ ตามกระบวนการสืบสวนที่เกี่ยวข้องกับความบกพร่องของคุณภาพสินค้า หลังจากซูซิกิได้เรียกคืนรถยนต์ในญี่ปุ่นมากกว่า 2 ล้านคัน
เจ้าหน้าที่กว่า 10 คนจากกระทรวงคมนาคมได้เดินทางไปยังอาคารที่ตั้งสำนักงานในเมืองฮามามัตสึ จังหวัดชิซึโอกะ เพื่อทำการสอบสวนเจ้าหน้าที่อาวุโสของซูซูกิ สืบสอบข้อเท็จจริงที่อยู่เบื้อหลังการกระทำความผิด และตรวจสอบขั้นตอนการป้องกันการกระทำความผิดชอบซูซูกิว่ามีความเพียงพอหรือไม่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้ซูซูกิแจ้งต่อกระทรวงคมนาคมว่า บริษัทได้เรียกคืนรถยนต์จำนวน 2.02 ล้านคันในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการเรียกคืนรถยนต์ครั้งมากสุดเป็นประวัติการณ์ประเทศ โดยให้เหตุผลว่ามีการตรวจพบโดยนักกฎหมายจากภายนอกว่า พนักงานของบริษัทไม่ได้ทำการตรวจสอบระบบเบรคของรถก่อนส่งมอบให้กับลูกค้า อีกทั้งยังมีการปลอมแปลงบันทึกการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์มาตั้งแต่ปี 2524 มาจนถึงเดือนม.ค.ปีนี้
ทั้งนี้ ซูซูกิได้ออกมาเปิดเผยรายงานเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ยังคงมีการกระทำความผิดอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้บริษัทจะเคยออกมายอมรับว่ามีการปลอมแปลงข้อมูลการประหยัดพลังงานให้ผิดจากความเป็นจริงตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ที่ผ่านมานั้น ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น รวมถึงนิสสันและซูบารุ ได้เผชิญข่าวฉาวเกี่ยวกับการปลอมแปลงข้อมูลคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการดำเนินการตรวจสอบโดยพนักงานที่ไร้คุณภาพ เช่นเดียวกับผู้ผลิตเคมีภัณฑ์, เหล็ก และชิ้นส่วนเครื่องบินที่ต่างก็เคยออกมายอมรับว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในทำนองเดียวกัน