สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เปิดเผยว่า ความต้องการเดินทางทางอากาศของผู้โดยสารทั่วโลกในเดือนมี.ค. 2562 เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. 2561 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 9 ปี
IATA เปิดเผยว่า ความต้องการเดินทางโดยเครื่องบินที่ลดลงนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่วันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ในทวีปยุโรป, อเมริกา และ แอฟริกา ในปีนี้ ล่าช้ากว่าในปี 2561 อยู่เกือบ 1 เดือน
นายอเล็กซานเดอร์ เดอ จูเนียค ผู้อำนวยการและซีอีโอของ IATA กล่าวว่า "ขณะที่การขยายตัวของการเดินทางชะลอลงอย่างมากในเดือนมี.ค. เรากลับไม่คิดว่าเป็นการส่งสัญญาณสำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้"
อย่างไรก็ตาม นายเดอ จูเนียคได้เตือนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลง โดยระบุถึงการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดแนวโน้ม GDP โลกเป็นครั้งที่ 4 ในปีที่ผ่านมา
รายงานของ IATA ระบุว่า ในตลาดผู้โดยสารระหว่างประเทศนั้น สายการบินในเอเชีย-แปซิฟิกมีการเดินทางเพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งลดลงจากการขยายตัว 4% ในเดือนก.พ.
ขณะที่สายการบินยุโรปมีการเดินทางเพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. 2561 แต่ลดลงจาก 7.5% ในเดือนก.พ.
IATA ระบุว่า ความต้องการเดินทางที่ลดลงดังกล่าวนั้นส่วนหนึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ลดลงในยูโรโซน และความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ส่วนสายการบินในอเมริกาเหนือมีการเดินทางเพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว แต่ลดลงจากการขยายตัวเมื่อเทียบรายปี 4.2% ในเดือนก.พ.
นายเดอ จูเนียคกล่าวว่า "แม้การเดินทางในเดือนมี.ค.ชะลอลง แต่แนวโน้มการเดินทางทางอากาศยังคงแข็งแกร่ง โดยการเดินทางทั่วโลกไม่เคยดีกว่านี้มาก่อน"
"ผู้บริโภคสามารถเลือกเดินทางจากการจับคู่เมืองจำนวนมากกว่า 21,000 คู่ด้วยเที่ยวบินรายวันมากกว่า 125,000 เที่ยว และค่าโดยสารก็ยังคงลดลง" เขากล่าว