นายลอยด์ แบลงค์ไฟน์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ใช้มาตรการภาษีต่อจีน อาจไม่ใช่แนวคิดที่แย่ และการเรียกเก็บภาษีถือเป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรองที่มีประสิทธิภาพ
นายแบลงค์ไฟน์กล่าวว่า สหรัฐอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีในขณะนี้ แต่สิ่งนี้จะกระทบจีนในระยะยาว
"การกล่าวว่ามาตรการภาษีได้ส่งผลกระทบต่อเรา ถือเป็นการพูดที่ผิดประเด็น เนื่องจากจีนพึ่งพาการค้ามากกว่าเรา และจะเป็นฝ่ายสูญเสียมากกว่า" นายแบลงค์ไฟน์ระบุ
นอกจากนี้ นายแบลงค์ไฟน์ยังได้ทวีตข้อความระบุว่า มาตรการภาษีอาจทำให้ผู้ซื้อของสหรัฐหันไปซื้อสินค้าในประเทศ หรือจากบริษัทอื่นที่ไม่ใช่จีน แม้ว่าจะทำให้ชาวอเมริกันจ่ายมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แต่บริษัทจีนจะเป็นฝ่ายสูญเสียรายได้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ทำให้จีนตอบโต้เมื่อวันจันทร์ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.