ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวในวันนี้ว่า เขาหวังว่าสหรัฐไม่ต้องทำสงครามกับอิหร่าน ท่ามกลางความตึงเครียดที่กำลังเพิ่มขึ้น
ปธน.ทรัมป์กล่าว ก่อนที่จะพบปะกับนายอูลี มอเรอร์ ประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ ที่ทำเนียบขาวในวันนี้ ซึ่งที่ผ่านมา สวิตเซอร์แลนด์ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจาระหว่างสหรัฐและอิหร่าน เนื่องจากทั้งสองประเทศไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน
สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์มีความต้องการที่จะใช้แนวทางทางการทูตกับอิหร่าน รวมทั้งการเจรจาโดยตรงกับผู้นำอิหร่าน แต่ก็มีความกังวลต่อการที่ที่ปรึกษาบางคนของเขามีแนวโน้มผลักดันการทำสงครามกับอิหร่าน
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังไม่ได้รับอำนาจจากสภาคองเกรสในการทำสงครามกับอิหร่าน
นางเพโลซียังกล่าวว่า รัฐบาลจะบรรยายสรุปข้อมูลลับเกี่ยวกับอิหร่านต่อผู้นำในสภาคองเกรสวันนี้
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์สั่งเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่มีความจำเป็นให้เดินทางออกจากอิรัก เนื่องจากกังวลต่อภัยคุกคามจากกองกำลังของอิหร่าน
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวเป็นการถอนเจ้าหน้าที่สหรัฐออกจากสถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด และกงสุลสหรัฐในเมืองเออร์บิล ซึ่งจะส่งผลให้การให้บริการด้านวีซ่าจะถูกระงับเป็นเวลาชั่วคราว
อย่างไรก็ดี ไม่มีการเปิดเผยจำนวนเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ถูกสั่งให้เดินทางออกจากอิรักในครั้งนี้
"การสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ และประชาชนชาวอเมริกัน ถือเป็นความสำคัญสูงสุดของเรา และขณะที่เรามีความเชื่อมั่นว่าฝ่ายความมั่นคงของอิรักจะสามารถปกป้องเราได้ แต่ภัยคุกคามในครั้งนี้มีความรุนแรง และเราต้องการลดความเสี่ยงลง" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าว