บรรดารัฐมนตรีคลังของยุโรปต่างขานรับการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการชะลอการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อรถยนต์ และอะไหล่รถยนต์จากต่างประเทศออกไปอีก 6 เดือน
นายบรูโน เลอ แมร์ รมว.คลังฝรั่งเศส กล่าวว่า "นี่เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด ผมคิดว่าเราควรหลีกเลี่ยงการทำสงครามการค้าในทุกรูแบบ รวมทั้งการเก็บภาษีนำเข้า และการคว่ำบาตร เพราะการทำสงครามการค้าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก, สหรัฐ, จีน และยุโรป"
ด้านนายโอลาฟ โชลซ์ รมว.คลังเยอรมนี กล่าวว่า "นี่ถือเป็นข่าวดีมาก ซึ่งถ้าเราหวังจะให้เศรษฐกิจโลกมีความแข็งแกร่ง เราก็จะต้องเพิ่มการค้า ไม่ใช่เพิ่มกำแพงการค้า"
ส่วนนายคริสเตียน เจนเซ่น รมว.คลังเดนมาร์ก กล่าวว่า "ทุกวันที่เราไม่มีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและยุโรปถือเป็นวันที่ดี ยิ่งมีการชะลอการเก็บภาษีออกไปนานเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้เรามีโอกาสในการแก้ไขปัญหาสงครามการค้าได้มากเท่านั้น"
ทำเนียบขาวแถลงในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ตัดสินใจชะลอการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อรถยนต์ และอะไหล่รถยนต์จากต่างประเทศออกไปอีก 6 เดือน เพื่อให้สหรัฐมีเวลามากขึ้นในการเจรจาการค้ากับยุโรป และญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ทำการเจรจากับยุโรป และญี่ปุ่น และให้รายงานกลับมายังปธน.ทรัมป์ภายในเวลา 180 วัน ขณะที่ปธน.ทรัมป์ระบุว่า รถยนต์และรถบรรทุกนำเข้าบางส่วนได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และเป็นภัยต่อความมั่นคง
ปธน.ทรัมป์มีเวลาจนถึงเที่ยงคืนวันศุกร์นี้ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 11.00 น.ในวันเสาร์ตามเวลาไทย ในการประกาศขึ้นภาษีต่อรถยนต์นำเข้า ตามข้อแนะนำจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐจากรถยนต์นำเข้า
ตามกฎหมายสหรัฐ รัฐบาลสหรัฐยังคงมีเวลาอีก 180 วันในการทำการตัดสินใจในเรื่องการจัดเก็บภาษีดังกล่าว ตราบใดที่สหรัฐกำลังเจรจากับทางยุโรป และญี่ปุ่น
ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์มองว่าการใช้มาตรการภาษีจะทำให้สหรัฐเป็นฝ่ายได้เปรียบในการเจรจาการค้ากับจีน สหภาพยุโรป (EU) และญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดี EU ก็ได้เตรียมรายชื่อสินค้าสหรัฐที่จะถูกตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีเช่นกัน หากปธน.ทรัมป์เดินหน้าเรียกเก็บภาษีต่อรถยนต์นำเข้าจาก EU