นายกุย เทียนไค เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐ กล่าวว่า การที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรบริษัทจีนเป็นการแสดงว่าสหรัฐหมดปัญญาที่จะแก้ไขปัญหา
"สหรัฐเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก แต่สหรัฐมาถึงจุดนี้ได้อย่างไรในการใช้มาตรการคว่ำบาตร แม้ว่ามีวิธีอื่นที่ดีกว่า" นายกุยกล่าว
"ทำไมสหรัฐไม่เจรจากับชาติอื่น ทำไมสหรัฐไม่พิจารณาความคิดเห็นของชาติอื่น ทำไมสหรัฐไม่ยอมรับความกังวลที่มีเหตุผลของชาติอื่น" เขากล่าว
นายกุยกล่าวว่า เขาไม่สามารถคาดการณ์การตัดสินใจของสหรัฐ แต่เขาหวังว่าสหรัฐจะไม่ทำผิดซ้ำสอง
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนนี้ โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.
นอกจากนี้ สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เตรียมพิจารณาเพิ่มบัญชีรายชื่อบริษัทจีนที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณาที่จะขึ้นบัญชีดำบริษัทจำหน่ายกล้องวงจรปิดรายใหญ่ 5 รายของจีน ซึ่งรวมถึงบริษัท Hikvision Digital Technology และ บริษัท Dahua Technology ด้วยข้อหากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน