ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และนางเมลาเนีย สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในวันนี้ ในระหว่างการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ โดยปธน.ทรัมป์ถือเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 3 ที่จะได้รับการต้อนรับแบบรัฐพิธี นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในปี 2546 และอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาในปี 2554
รายงานระบุว่า หลังจากที่ปธน.ทรัมป์และภริยาเดินทางถึงสนามบินสแตนสเต็ดแล้ว ทั้งคู่ได้เดินทางต่อด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังกรุงลอนดอน โดยมีเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ให้การต้อนรับ และจากนั้นได้เดินทางไปยังพระราชวังบักกิ้งแฮม เพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยมีแถวทหารให้การต้อนรับพร้อมยิงสลุต
จากนั้นปธน.ทรัมป์และภริยาได้เดินทางไปยังเวสต์มินส์เตอร์ เพื่อเข้าเฝ้าเจ้าชายแอนดรูว์ และได้มีโอกาสไปเคารพสุสานทหารที่พลีชีพในสงครามโลกครั้งที่ 2
ในการเดินทางเยือนอังกฤษเป็นเวลา 3 วัน ปธน.ทรัมป์จะเข้าร่วมพิธีรำลึกวัน D-Day เป็นปีที่ 75 และจะหารือกับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเกี่ยวกับบริษัทหัวเว่ยของจีน
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางถึงอังกฤษไม่กี่นาที นายทรัมป์ได้วิจารณ์นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้กล่าวว่า อังกฤษไม่ควรปูพรมแดงต้อนรับนายทรัมป์ โดยนายทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า นายข่านเป็นคนขี้แพ้ แต่ขณะเดียวกันก็กล่าวว่าตนตั้งตารอการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน รายงานข่าวระบุว่า มีการวางแผนชุมนุมประท้วงในหลายเมือง ซึ่งรวมถึงลอนดอน แมนเชสเตอร์ เบลฟาสต์ และเบอร์มิงแฮม ระหว่างที่ทรัมป์เยือนสหราชอาณาจักร