นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า จีนจะต่อสู้จนถึงที่สุด ถ้าหากสหรัฐยังคงเพิ่มความขัดแย้งทางการค้า
นายเกายังกล่าวว่า จีนจะไม่ยอมอ่อนข้อแก่สหรัฐในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหลักการ ในการเจรจาการค้าและเศรษฐกิจกับสหรัฐ ซึ่งมีการระบุไว้ในสมุดปกขาวว่าด้วยการหารือด้านการค้าพหุภาคี ซึ่งมีการเผยแพร่ในช่วงต้นเดือนนี้
ต่อข้อถามเกี่ยวกับคำขู่ครั้งใหม่ของสหรัฐที่จะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน นายเกากล่าวว่า จีนขอคัดค้านท่าทีข่มเหงรังแก และการดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐ และจีนไม่กลัวการทำสงครามการค้า
"จุดยืนของจีนชัดเจนคือสหรัฐจะต้องปรับเปลี่ยนท่าที และแสดงความจริงใจ รวมทั้งแก้ไขในสิ่งผิด หากสหรัฐต้องการให้การเจรจาการค้าดำเนินต่อไป" เขากล่าว
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า หากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน ไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ในเดือนนี้ สหรัฐก็จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้านำเข้าจากจีน
ปธน.ทรัมป์ยังขู่ว่า สหรัฐจะเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนอีก 3 แสนล้านดอลลาร์ หากสหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับจีนในไม่ช้า
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง จะพบปะกันนอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 มิ.ย. เพื่อเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะรู้สึกประหลาดใจ หากปธน.สี จิ้นผิงไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุว่า เขามีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำจีน
ทั้งนี้ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.