นายลี กาชิง มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของฮ่องกงได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงมีความเมตตาในการจัดการกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในฮ่องกงในช่วงฤดูร้อนนี้ และระบุว่า การประท้วงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเป็นวิกฤตครั้งเลวร้ายที่สุดของฮ่องกงนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
นายลี กาชิง ซึ่งกลุ่มบริษัทของเขาอยู่ในบรรดากลุ่มอาณาจักรธุรกิจที่โดดเด่นที่สุดของฮ่องกงนั้น ได้เรียกร้องให้มีการปรองดองกันระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ประท้วง ขณะที่การประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ทวีความรุนแรงขึ้น
นายลี กาชิง วัย 91 ปี กล่าวว่า หากการประท้วงยังคงดำเนินต่อไป ก็จะเป็นเรื่องที่แย่มากและทำให้เขารู้สึกกังวล อย่างไรก็ดี เขาหวังว่าคนหนุ่มสาวจะสามารถพิจารณาภาพรวมได้ และผู้นำรัฐบาลก็สามารถที่จะแสดงความเมตตากับเจ้าของอนาคตของฮ่องกงด้วย
ทางด้านโฆษกของบริษัทซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทท่าเรือและธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมของนายลี ได้ยืนยันการแสดงความเห็นของนายลี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งได้จุดไฟเผา และทำลายทรัพย์สินที่สถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่ง รวมถึงตั้งเครื่องกีดขวางในย่านใจกลางเมือง หลังจากที่ผู้ประท้วงนับหมื่นคนเดินขบวนอย่างสงบไปยังสถานกงสุลสหรัฐ ซึ่งภาพการประท้วงดังกล่าวเป็นเครื่องเตือนครั้งล่าสุดว่า การประท้วงที่ดำเนินมานาน 3 เดือนเพื่อต่อต้านการควบคุมของจีนนั้น ยังไม่มีแนวโน้มที่จะสิ้นสุดลงในเร็วๆนี้