สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ได้สั่งการให้สายการบินต่างๆของสหรัฐตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้ง 737 Next Generation (NG) จำนวน 165 ลำ เพื่อตรวจสอบรอยแตกที่มีผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างเครื่องบิน โดยให้ทำการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวภายใน 7 วัน
คำสั่งดังกล่าวมีขึ้น หลังโบอิ้งได้แจ้งให้ FAA ทราบว่า พบรอยร้าวที่มีผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างบนเครื่องบินที่อยู่ระหว่างการแก้ไข และรอยร้าวที่คล้ายกันในเครื่องบินลำอื่นเมื่อเดือนที่แล้ว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737 NG เป็นเครื่องบินรุ่นก่อนโบอิ้ง 737 MAX ซึ่งถูกสั่งห้ามขึ้นบินนับแต่กลางเดือนมี.ค.หลังเกิดอุบัติเหตุตก 2 ครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน
FAA กล่าวในแถลงการณ์ว่า FAA ได้สั่งให้สายการบินต่างๆ ตรวจสอบเครื่องบินที่มีจำนวนครั้งที่ขึ้นลง (cycle) มากกว่า 30,000 รอบภายในเวลา 7 วันหลังจากออกกฎ นอกจากนี้ เครื่องบินที่มีจำนวนครั้งที่ขึ้นลงระหว่าง 22,600 และ 29,999 รอบ จะต้องถูกตรวจสอบภายใน 1,000 รอบ
ทั้งนี้ 1 cycle จะกำหนดจากการเพิ่มความดันและลดความดัน 1 ครั้ง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะสอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบิน
กฎดังกล่าวจะส่งผลต่อเครื่องบินที่จดทะเบียนในสหรัฐจำนวน 1,911 ลำ และมีประมาณ 165 ลำที่ต้องตรวจสอบภายใน 7 วัน
การตรวจสอบสามารถกระทำได้ด้วยตาเปล่า และจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อลำ
FAA กล่าวว่า รอยแตกร้าวอาจส่งผลต่อความสมบูรณ์ของโครงสร้างเครื่องบินและส่งผลให้เครื่องบินสูญเสียการควบคุมได้
ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่นี้ อาจเป็นความเสียหายอีกครั้งของโบอิ้ง หลังเครื่องโบอิ้ง 737 MAX ถูกสั่งห้ามขึ้นบินมาก่อนหน้านี้แล้ว