เฟซบุ๊ก อิงค์ เปิดเผยรายงานความโปร่งใสซึ่งจัดทำขึ้นสองปีต่อครั้งเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เฟซบุ๊กได้ทำการลบโพสต์หลายสิบล้านชิ้นของผู้ใช้ที่ละเมิดเงื่อนไขการให้บริการของบริษัทในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งรายงานดังกล่าวสะท้อนถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัทเช่นเดียวกับการรายงานผลประกอบการรายไตรมาส
แต่สิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่ก็คือ การให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากอินสตาแกรมเป็นครั้งแรกที่ตอกย้ำถึงความรุนแรงของการละเมิดด้านคอนเทนต์ในแอพแชร์ภาพถ่าย โดยเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ทำการลบภาพโพสต์หลายล้านชิ้นในอินสตาแกรมในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นภาพลามกอนาจารของเด็ก, การขายยาเสพติดและอาวุธปืน, การก่อการร้าย และการฆ่าตัวตาย รวมถึงการทำร้ายตนเอง
ในการประชุมทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวนั้น นายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ และสมาชิกของทีมมาตรฐานชุมชน ของเฟซบุ๊กได้เปิดเผยข้อมูลการลบโพสต์ในอินสตาแกรม โดยระบุว่า มีการลบคอนเทนต์ 753,700 ชิ้นที่เกี่ยวข้องกับภาพเปลือยของเด็กหรือการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 47% จากไตรมาส 2 นอกจากนี้ ยังมีการลบโพสต์เกี่ยวกับโฆษณาชวนเชื่อของผู้ก่อการร้าย 133,300 ชิ้น ซึ่งเพิ่มขึ้น 25%, ลบโพสต์ 1.5 ล้านชิ้นที่เชื่อมโยงกับการขายยาเสพติด ซึ่งเท่ากับในไตรมาส 2 และลบโพสต์ 845,000 ชิ้นที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตายและการทำร้ายตัวเอง ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาส 2
เฟซบุ๊กระบุด้วยว่า บริษัทได้ทำการลบบัญชีผู้ใช้ปลอมจำนวน 1.7 พันล้านบัญชีในไตรมาส 3 ซึ่งลดลงจาก 2.2 พันล้านบัญชีในไตรมาสแรก เนื่องจากทางบริษัทได้ปิดกั้นความพยายามในการสร้างบัญชีปลอมและบัญชีที่ไม่เหมาะสมก่อนที่จะถูกสร้างขึ้น จึงทำให้มีบัญชีปลอมน้อยลงที่ถูกปิดการใช้งาน