เจ้าชายแอนดรูว์ โอรสองค์ที่สองของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ประกาศพักพระราชกรณียกิจในระยะนี้ หลังจากที่เกิดกรณีอื้อฉาวที่พัวพันกับนายเจฟฟรีย์ เอปสไตน์ ผู้ต้องหาคดีทางเพศ
"เป็นที่ชัดเจนสำหรับข้าพเจ้าในช่วงหลายวันที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ที่ได้พัวพันข้าพเจ้ากับคุณเจฟฟรีย์ เอปสไตน์ได้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติภารกิจของราชวงศ์ของข้าพเจ้า และต่องานที่ข้าพเจ้าทำในองค์กรและมูลนิธิหลายแห่งที่ข้าพเจ้าให้การสนับสนุน" เจ้าชายแอนดรูว์ตรัสในแถลงการณ์
เจ้าชายแอนดรูว์ตรัสว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้ประทานพระบรมราชานุญาตให้พระองค์งดเว้นจากการประกอบพระราชกรณียกิจในระยะนี้
อย่างไรก็ดี เจ้าชายแอนดรูว์ตรัสว่า พระองค์พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับนายเอปสไตน์
ก่อนหน้านี้ เจ้าชายแอนดรูว์ได้ประทานสัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบีบีซี โดยได้ปฏิเสธต่อข้อกล่าวหาที่ว่า พระองค์มีความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงสาววัย 17 ปี ซึ่งนายเอปสไตน์ ซึ่งเป็นสหายของพระองค์จัดหามาให้ และต่อมานายเอปสไตน์ได้ฆ่าตัวตายระหว่างอยู่ในเรือนจำสหรัฐในเดือนส.ค. ขณะที่รอการดำเนินคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจทางเพศ
ทางด้านธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ประกาศถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์ให้กับ Pitch@Palace ซึ่งเป็นมูลนิธิภายใต้การอุปถัมภ์ของ เจ้าชายแอนดรูว์
"เราขอยืนยันว่าจะไม่ต่อสัญญาการเป็นสปอนเซอร์ให้กับ Pitch@Palace อันเนื่องจากเหตุผลเชิงพาณิชย์ ทันทีที่ข้อตกลงฉบับปัจจุบันสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม" สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดระบุ
สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดยืนยันว่า การยุติการเป็นสปอนเซอร์ดังกล่าวมาจากเหตุผลเชิงพาณิชย์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับข่าวอื้อฉาวที่พัวพันเจ้าชายแอนดรูว์ในขณะนี้
นอกจากนี้ KPMG บริษัทบัญชียักษ์ใหญ่ของโลก ก็ได้ประกาศว่า ทางบริษัทจะไม่ต่อสัญญาการเป็นสปอนเซอร์ให้กับโครงการเกี่ยวกับผู้ประกอบการของเจ้าชายแอนดรูว์
ทางด้านนายไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรค Brexit ซึ่งสนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป กล่าวว่า ข่าวอื้อฉาวทางเพศที่พัวพันเจ้าชายแอนดรูว์ กำลังกระทบต่อภาพลักษณ์ของราชวงศ์อังกฤษ
"คำกล่าวของเจ้าชายแอนดรูว์ไม่ได้แสดงความเสียใจต่อมิตรภาพที่มีกับนายเอปสไตน์ หรือเห็นอกเห็นใจต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากขบวนการค้ามนุษย์" นายฟาราจกล่าว