บิสิเนส อินไซเดอร์รายงานว่า นายมาร์เซโล คลอร์ ผู้บริหารของซอฟท์แบงก์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานบริหารของ WeWork ธุรกิจสตาร์ทอัพของสหรัฐซึ่งให้บริการปล่อยเช่าพื้นที่สำนักงาน ได้เปิดเผยว่า WeWork ได้แต่งตั้งผู้บริหาร 4 ตำแหน่งเมื่อวานนี้ และวางแผนที่จะพลิกฟื้นบริษัทให้กลับมามีความสามารถในการทำกำไร แม้คาดว่ากระแสเงินสดของบริษัทจะกลับมาเป็นบวกได้ในปี 2566 ก็ตาม
ทั้งนี้ WeWork ได้ประกาศแต่งตั้งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการตลาดและการสื่อสาร, หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์, หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเปลี่ยนแปลง และหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล
WeWork ได้วางแผนที่จะเจาะตลาดชั้นนำ 12 แห่งรวมถึงนิวยอร์ก และลอนดอน และในตลาดที่ใหญ่ที่สุด 16 แห่งถัดไป โดยจะทำการสำรวจข้อตกลงการแบ่งปันรายได้กับเจ้าของพื้นที่ให้เช่า
ส่วนในเอเชีย แปซิฟิกนั้น WeWork จะยังคงขยายกิจการร่วมทุนต่อไป และในตลาดเกิดใหม่นั้น บริษัทวางเป้าหมายที่จะทำแฟรนไชส์ในอนาคต
สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวก่อนหน้านี้ว่า บรรดาผู้บริหารของบริษัทซอฟท์แบงก์อยู่ในระหว่างการหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินาซื้อหุ้นในบริษัท WeWork ลงราว 3 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่ WeWork ประกาศปลดพนักงาน 2,400 คนทั่วโลก เพื่อลดค่าใช้จ่าย และปรับโครงสร้างบริษัท
เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา ซอฟท์แบงก์ กรุ๊ป ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้บรรลุข้อตกลงเทคโอเวอร์กิจการบริษัท WeWork โดยซอฟท์แบงก์จะจัดหาเงินทุนก้อนใหม่ 5 พันล้านดอลลาร์ให้กับ WeWork และจะจัดสรรเงินอีก 3 พันล้านดอลลาร์ผ่านการทำ Tender Offer
นอกจากนี้ ซอฟท์แบงก์ จะเร่งจัดหาเงินทุนให้อีก 1.5 พันล้านดอลลาร์ รวมเป็น 9.5 พันล้านดอลลาร์ ตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับ WeWork ซึ่งภายหลังจากเสร็จสิ้นการทำธุรกรรมทั้งหมดแล้ว ซอฟท์แบงก์จะถือครองหุ้น WeWork ในสัดส่วน 80%