บริษัท โบอิ้ง โค ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ทางบริษัทจะระงับการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 MAX เป็นการชั่วคราว โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. 2563 อันเนื่องมาจากความกังวลด้านความปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุการณ์เครื่องบินรุ่น 737 MAX ของโบอิ้งตกถึง 2 ครั้ง และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
โบอิ้งออกแถลงการณ์ในวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐว่า ขณะนี้โบอิ้งมีเครื่องบินรุ่น 737 MAX ค้างสต็อกอยู่จำนวน 400 ลำ เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินได้สั่งระงับการขึ้นบินของเครื่องบินรุ่นดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ โบอิ้งจึงได้ตัดสินใจที่จะนำเครื่องบินที่เหลืออยู่ในสต็อกออกมาทยอยส่งมอบให้กับลูกค้า และจะระงับการผลิตเครื่องบิน 737 MAX เป็นการชั่วคราว โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป
ทั้งนี้ โบอิ้งระบุว่า การตัดสินใจระงับการผลิตเครื่องบิน 737 MAX นั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของระยะเวลาและเงื่อนไขในการนำเครื่องรุ่นดังกล่าวกลับมาให้บริการอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ปีนี้ เครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ ประสบอุบัติเหตุตกหลังจากขึ้นบินได้เพียง 6 นาที ซึ่งทำให้ผู้โดยสาร 157 รายบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงห้าเดือนหลังจากเครื่องบินรุ่นเดียวกันของสายการบินไลอ้อนแอร์ ตกเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว และคร่าชีวิตผู้โดยสารทั้งหมด 189 ราย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การระงับผลิตเครื่องบินรุ่น 737 MAX อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสายการบินทั่วโลก ซึ่งรวมถึง เอเอ็นเอ โฮลดิ้งส์ ที่วางแผนเปิดตัวการให้บริการด้วยเครื่องบิน 737 MAX จำนวน 30 รุ่นในปีงบการเงิน 2564
นายสตีฟ ดิคสัน ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า FAA ไม่มีแนวโน้มที่จะให้ใบอนุญาตการบินแก่เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX จนกว่าจะถึงปีหน้า โดยคำกล่าวของนายดิคสันได้ทำลายความหวังที่ว่าเครื่องบินโบอิ้งรุ่นดังกล่าวจะสามารถได้รับใบอนุญาต และขึ้นบินอีกครั้งก่อนสิ้นปีนี้