ทางการตุรกีได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 7 รายในข้อหาช่วยเหลือนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริษัทนิสสัน-เรโนลต์ หลบหนีออกจากญี่ปุ่นผ่านทางกรุงอิสตันบูล ก่อนเดินทางไปยังเลบานอน
ผู้ต้องสงสัย 7 รายดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยนักบิน 4 ราย, พนักงานของบริษัทให้บริการภาคพื้นดิน 2 ราย และผู้จัดการของบริษัทจัดส่งคาร์โกสินค้า 1 ราย ได้ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของสนามบินอตาเติร์กในกรุงอิสตันบูล
ทางด้านนายกอส์นกล่าวยืนยันในวันนี้ว่า เขาได้เตรียมการหลบหนีออกจากญี่ปุ่น โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวแต่อย่างใด
"มีการคาดเดาในสื่อมวลชนว่า แคโรล ภรรยาของผม และสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวของผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ผมเดินทางออกจากญี่ปุ่น ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวไม่ถูกต้อง โดยผมได้เตรียมการดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว และครอบครัวของผมไม่มีบทบาทในเรื่องนี้แต่อย่างใด" แถลงการณ์ของนายกอส์นระบุ
นอกจากนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ทางการเลบานอนได้รับหมายจับนายกอส์นจากองค์การตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ในวันนี้
อย่างไรก็ดี สำนักงานความมั่นคงภายในของเลบานอนเป็นหน่วยงานรับหมายแดงจากอินเตอร์โพลดังกล่าว แต่ยังไม่มีการส่งต่อไปยังฝ่ายตุลาการ
แหล่งข่าวระบุว่า ทางการเลบานอนยังไม่ได้ทำการตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินการต่อนายกอส์นหลังจากที่ได้รับหมายจับจากอินเตอร์โพล
ที่ผ่านมา หากทางการเลบานอนได้รับหมายแดงจากอินเตอร์โพลสำหรับชาวเลบานอนที่อาศัยในประเทศ เจ้าหน้าที่จะไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย แต่จะมีการริบหนังสือเดินทาง และให้มีการประกันตัว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายกอส์นออกแถลงการณ์ผ่านตัวแทนในสหรัฐ โดยยืนยันว่าเขาได้หลบหนีไปยังเลบานอนแล้ว โดยอ้างว่าศาลญี่ปุ่นไม่มีความยุติธรรม
นายกอส์นซึ่งถือสัญชาติบราซิล ฝรั่งเศส และเลบานอน ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดในข้อหาโอนยอดขาดทุนจากการลงทุนส่วนตัวเข้าไปยังงบดุลบัญชีของนิสสัน และรายงานค่าตอบแทนต่ำกว่าความจริงราว 9.1 พันล้านเยนในรายงานหลักทรัพย์ของบริษัทที่ยื่นต่อผู้ควบคุมกฎระเบียบของญี่ปุ่นเป็นเวลา 8 ปีจนถึงเดือนมี.ค.2561
อย่างไรก็ดี นายกอส์นปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ทั้งนี้ เลบานอนไม่มีข้อตกลงส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับญี่ปุ่น