Spotlight: วิกฤตไฟป่าออสเตรเลียโหมกระหน่ำรับปีใหม่ คาดทวีความรุนแรงขึ้นอีกสุดสัปดาห์นี้

ข่าวต่างประเทศ Friday January 3, 2020 12:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ออสเตรเลียเผชิญกับวิกฤตไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเดือนท้ายๆ ของปี 2562 โดยในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. สถานการณ์ไฟป่าเลวร้ายที่สุดในรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยมีรายงานยืนยันว่าประชาชน 9 คนเสียชีวิต ขณะที่บ้านเรือนเกือบ 1,000 หลัง และพื้นที่ป่ามากกว่า 3.6 ล้านเฮกเตอร์ถูกเผาทำลาย

ในช่วงปลายเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากเหตุไฟป่าในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ขณะที่บ้านเรือน ทรัพย์สิน และพื้นที่ป่าหลายพันเฮกเตอร์ได้รับความเสียหายจากไฟป่าด้วย

สถานการณ์ไฟป่าทำให้หมีโคอาล่าหลายพันตัวเสียชีวิตทั่วออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าตกใจสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับออสเตรเลียโดยรวม

เมื่อล่วงเข้าสู่วันปีใหม่ ชาวออสเตรเลียยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างสูง และขณะที่ฤดูร้อนกินเวลาอีกหลายเดือนนั้น สถานการณ์ก็ยังตึงเครียดอย่างมากว่า จะเกิดอะไรขึ้นอีก

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา วิกฤตไฟป่าในออสเตรเลียได้ลุกลามเพิ่มขึ้นทั้งในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรียซึ่งเป็นรัฐใกล้เคียง ภาวะลมแรงและอุณหภูมิที่สูงขึ้นยิ่งกระพือเปลวไฟ โดยประชาชนหลายพันคนต้องอพยพหนีไปไปยังชายฝั่ง สร้างที่พักพิงบนชายหาดที่พวกเขาคิดว่าปลอดภัยที่สุด

เมืองในชนบทหลายแห่งของออสเตรเลียได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยประชาชนแทบไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากพยายามที่จะหนีเปลวไฟซึ่งลุกลามไปทั่วทุกชุมชน ขณะที่นายเชน ฟิตซ์ซิมมอนส์ กรรมาธิการฝ่ายบริการดับเพลิงเขตชนบทของรัฐนิวเซาท์เวลส์ยืนยันว่า บ้านเรือน 382 หลังได้ถูกเผาทำลาย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานยืนยันว่า บ้านเรือนราว 50 หลังในรัฐวิกตอเรียได้รับความเสียหายจากเหตุไฟป่าด้วย ซึ่งคาดว่าจำนวนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากที่มีการเข้าสำรวจพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบเพื่อประเมินความเสียหาย

ทั้งนี้ จำนวนบ้านเรือนทั้งหมดที่ได้รับความเสียหายจากเหตุไฟป่าในฤดูกาลนี้อยู่ที่ระดับสูงกว่า 1,400 หลังแล้ว

ชาวออสเตรเลียจำนวนมากต้องใช้เวลาในวันสุดท้ายของปีกับความหวาดกลัวไฟป่า แทนที่จะได้เปิดแชมเปญฉลองวันสิ้นปี โดยเมืองเบตแมนส์ เบย์ได้ถูกไฟป่าตัดขาดจากโลกภายนอก และประชาชนต้องใช้เวลาในช่วงกลางคืนอยู่ใกล้ๆกับแหล่งน้ำที่ล้อมรอบไปด้วยเปลวไฟ

ในช่วงรุ่งเช้าของวันปีใหม่นั้น มีรายงานยืนยันว่าประชาชนอีก 5 รายเสียชีวิตในรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยพวกเขามีทั้งที่พยายามจะปกป้องบ้านเรือนของพวกเขา และหลบหนีจากไฟป่า

ในเขตอีสต์ กิปป์สแลนด์ของรัฐวิกตอเรียนั้น มีรายงานว่าพบบุคคลอีกรายเสียชีวิตในบ้าน ซึ่งทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในฤดูกาลนี้รวมเป็น 17 ราย

ภาพต่างๆที่ปรากฎตามโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่า ชาวออสเตรเลียได้หลบหนีไฟป่าด้วยเรือซึ่งมีฉากหลังเป็นท้องฟ้าเวลากลางวันที่มีสีแดงฉานจากเปลวไฟ ซึ่งความรุนแรงของไฟป่าดังกล่าวได้สร้างความตกใจไปทั่วโลก

เรือและเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพออสเตรเลียได้ถูกส่งเข้าไปรับประชาชนที่ยังคงติดค้างอยู่ใกล้กับมหาสมุทร รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ชายหาดมัลลาคูตาซึ่งมีประชาชนราว 4,000 คนพักพิงที่ชายหาดดังกล่าว

เมื่อเย็นวันพุธที่ผ่านมา หน่วยบริการดับเพลิงชนบทของรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ออกคำสั่งให้นักท่องเที่ยวอพยพออกจากชายฝั่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ซึ่งมีระยะทางราว 250 กิโลเมตรและเป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่ง และในช่วงเช้าวานนี้ พบว่านักท่องเที่ยวมีการต่อคิวยาวเพื่อซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง, อาหาร และน้ำดื่มเพื่อเดินทางกลับบ้าน

ด้านนายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียได้เรียกร้องให้ประชาชนอดทนและอยู่ในความสงบในช่วงเวลาที่เผชิญกับภัยพิบัติร้ายแรง และยืนยันว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการทุกสิ่งที่เป็นไปได้เพื่อให้กระบวนการอพยพประชาชนเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

"เราไม่สามารถควบคุมภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่เราสามารถควบคุมการรับมือของเรา สิ่งที่เราสามารถทำได้คือสนับสนุนผู้ที่กำลังเผชิญความเสี่ยงด้วยการแสดงความอดทนและความสงบ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็น" นายมอร์ริสันกล่าว

อย่างไรก็ตาม การสื่อสารตามปกติได้ถูกจำกัด เนื่องจากบริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตล่มในหลายพื้นที่ ทำให้ใม่สามารถติดต่อประชาชนในพื้นที่ได้

ขณะเดียวกันมีการประกาศว่า ประชาชน 17 คนสูญหายไปในเขตอีสต์ กิปป์สแลนด์ของรัฐวิกตอเรีย และมีความวิตกอย่างมากเกี่ยวกับความปลอดภัยของบุคคลเหล่านั้น

นายแดเนียล แอนดรูส์ นายกเทศมนตรีของรัฐวิกตอเรียเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "เหตุการณ์ไฟป่านับเป็นสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างมาก และประชาชนจำนวนมากในหลายพื้นที่ได้ถูกตัดขาดจากบริการต่างๆ"

"เรามีความวิตกอย่างมากเกี่ยวกับความปลอดภัยของบุคคลที่สูญหายไปในเวลานี้" นายแอนดรูส์กล่าว

ทั้งนี้ พื้นที่รวม 500,000 เฮกเตอร์ได้ถูกเผาทำลายทั่วเขตอีสต์ กิปป์สแลนด์ อันเป็นผลจากไฟป่ารุนแรงที่เกิดขึ้น 3 จุด

ส่วนพื้นที่ทั่วประเทศเกือบ 5.9 ล้านเฮกเตอร์ได้ถูกไฟป่าเผาผลาญนับตั้งแต่วิกฤตเริ่มต้นขึ้น

แม้ว่าสถานการณ์ไฟป่าได้ทุเลาลงบ้างเมื่อวันพุธและเมื่อวานนี้ แต่ก็คาดว่าจะรุนแรงขึ้นอีกในช่วงสุดสัปดาห์นี้

นายโจนาธาร ฮาว นักวิทยาศาสตร์ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า "อันตรายจากไฟป่าในวันเสาร์นี้จะรุนแรงถึงขีดสุดอีกครั้งในพื้นที่และชุมชนต่างๆที่ถูกไฟเผาทำลายในวงกว้างอยู่แล้ว เนื่องจากจะมีความร้อนและลมเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ