องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ทะลุหลัก 9,800 รายแล้วทั่วโลก โดยมีจำนวนมากกว่าผู้ที่ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือ SARS เมื่อปี 2546 ซึ่งมีจำนวน 8,096 รายทั่วโลก
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การที่ผู้ติดเชื้อ SARS ทั่วโลกมีจำนวนมากกว่า 8,000 ราย ต้องใช้เวลามากถึงประมาณ 8 เดือน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พุ่งเกือบแตะหลักหมื่นรายภายในเวลาเพียง 1 เดือน หลังจากมีการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกจากเจ้าหน้าที่ในเมืองอู่ฮั่นในวันที่ 31 ธ.ค.2562
เมื่อนับรวมในจีนเพียงที่เดียวแล้ว คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงยืนยันว่า ณ วันพฤหัสบดีที่ 30 ม.ค. จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน เพิ่มขึ้นเป็น 213 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวอยู่ที่ 9,692 ราย ซึ่งเท่ากับว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวนอกดินแดนจีนนั้นอยู่ที่ประมาณ 100 ราย ใน 18 ประเทศ
ทั้งนี้ WHO ได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็น "ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก" หลังจากเชื้อไวรัสดังกล่าวแพร่ระบาดไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
WHO ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมวาระฉุกเฉินครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเจนีวาในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า การประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก (Public Health Emergency of International Concern - PHEIC) นั้น จะช่วยยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
WHO ยังคงเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดย WHO จะให้คำแนะนำประเทศต่างๆในการใช้มาตรการที่แข็งแกร่งในการวินิจฉัยอาการผู้ป่วยติดเชื้อ การคัดแยกและการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ การติดตามประวัติการสัมผัสผู้อื่นของผู้ป่วยติดเชื้อ และการสนับสนุนให้ชุมชนตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการแยกตัวออกจากพื้นที่เสี่ยง
ทางด้านนายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า "การประกาศให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลกในครั้งนี้ ที่ประชุมไม่ได้มีการโหวตว่า WHO ขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาลจีน แต่เพราะเราวิตกกังวลอย่างมากว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้อาจจะแพร่ระบาดไปยังประเทศต่างๆที่มีระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอ ซึ่งจะทำให้ยากลำบากในการควบคุม นอกจากนี้ การประกาศภาวะฉุกเฉินระดับโลกยังมีเป้าหมายที่จะป้องกันหรือลดการแพร่ระบาดข้ามพรมแดน"
นอกจากนี้ นายแพทย์กีบรีเยซุสกล่าวว่า WHO ไม่ได้แนะนำให้ประเทศทั่วโลกใช้มาตรการจำกัดด้านการค้าต่อจีน หรือจำกัดการเดินทางไปยังประเทศจีน อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา