ผู้โดยสารกว่า 3,000 คนบนเรือสำราญ 2 ลำ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกกักกันนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 นั้น กำลังเดินทางกลับประเทศ ส่งผลให้กว่า 40 ประเทศทั่วโลกกังวลว่าอาจทำให้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น
ในวันนี้สหรัฐได้เริ่มอพยพพลเมืองสหรัฐกว่า 100 รายจากเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส ซึ่งจอดเทียบท่าอยู่ที่ท่าเรือในเมืองโยโกฮาม่าในญี่ปุ่นกลับสหรัฐ ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ยังได้วางแผนที่จะอพยพพลเมืองของตัวเองกลับประเทศเช่นเดียวกัน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายคัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 บนเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส เพิ่มขึ้น 70 ราย แตะ 355 รายแล้ว ซึ่งถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกประเทศจีนครั้งใหญ่ที่สุด
นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์เช่นเดียวกัน ยังมีรายงานจากมาเลเซียว่า พบผู้โดยสารหญิงชาวอเมริกัน อายุ 83 ปีซึ่งเป็นผู้โดยสารบนเรือสำราญเวสเตอร์ดัมติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดคำถามถึงความมีประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาดบนเรือสำราญ ซึ่งทำให้หลายประเทศในเอเชียห้ามไม่ให้เหล่าเรือสำราญเข้าเทียบท่า นายฌอง พอล ร็อดริก ศาสตราจารย์ด้านการภูมิศาสตร์การขนส่งจากมหาวิทยาลัยฮอฟสตราในนิวยอร์กกล่าวว่า บนเรือสำราญซึ่งผู้คนเดินทางไปมา ใช้ทางเดินเดียวกัน สัมผัสที่จับและราวบันไดเดียวกันนั้น ทำให้มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดสูงมาก