นายโอลิวิเยร์ เวอรอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ทางการฝรั่งเศสได้สั่งห้ามการรวมตัวในที่สาธารณะเกินกว่า 1,000 คนเป็นการชั่วคราว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หลังจากที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงกว่า 1,000 คน
นายเวอรองกล่าวหลังการประชุมที่ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสเรื่องโควิด-19 ว่า ได้สั่งห้ามจัดงานอีเวนต์ทั้งหมดที่คาดว่าจะมีประชาชนมารวมตัวกันเกินกว่า 1,000 คนทั่วประเทศ ยกเว้นอีเวนต์ที่ได้รับพิจารณาว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลฝรั่งเศสได้สั่งห้ามการรวมตัวเกินกว่า 5,000 คนในสถานที่ปิด รวมถึงงานอีเวนต์บางอีเวนต์ในสถานที่เปิดทั่วฝรั่งเศส
นอกจากนี้ นายเวอรองยังให้คำมั่นว่า จะทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ได้ง่ายขึ้น ด้วยการลงนามในพระราชกฤษฎีกาอำนวยความสะดวกให้กับการแพทย์ทางไกลในวันนี้
รัฐมนตรียังได้ย้ำถึงความจำเป็นในการป้องกันตัวเอง เช่น ล้างมือบ่อย ๆ ใช้กระดาษชำระแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ไอหรือจามไปที่บริเวณข้อศอก และหลีกเลี่ยงการจับมือและกอด พร้อมทั้งแนะนำให้จำกัดการเข้าเยี่ยมผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ที่สุด
นายเวอรองกล่าวว่า "เรามีเหตุผลรองรับในทุกมาตรการที่เราได้ใช้ไป และซึ่งรวมถึงการชะลอไม่ให้ไวรัสแพร่ระบาดเข้าสู่พื้นที่ใหม่และควบคุมสถานการณ์ในสถานที่ที่มีการแพร่ระบาด
"ฝรั่งเศสได้คาดการณ์และตอบสนองด้วยการใช้มาตรการเชิงรุกที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีมาตรการรับมือที่เหมาะสมต่อวิกฤตนี้" นายเวอรองเสริม