สภากาชาดญี่ปุ่นได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะขาดแคลนสต็อกเลือด เนื่องจากประชาชนบริจาคเลือดน้อยลงในช่วงที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แพร่ระบาด
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า โดยเฉลี่ยแล้ว สต็อกเลือดที่เพียงพอสำหรับการถ่ายเลือดในสถาบันการแพทย์ทั่วประเทศนั้น จะต้องมีผู้บริจาคเลือดประมาณ 13,000 รายต่อวัน แต่ปริมาณเลือดที่ได้มีการบริจาค ลดลงนับตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่รัฐบาลได้ตัดสินใจออกมาขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกมายังสถานที่สาธารณะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ
สภากาชาดฯระบุว่า ปริมาณเลือด ณ ช่วงสิ้นเดือนก.พ. ซึ่งเป็นช่วงหลังการออกคำสั่งให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางออกมายังสถานที่สาธารณะนั้น อยู่ที่ 88%
การบริจาคเลือดประมาณ 920 รายการถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไป ในช่วงวันที่ 19 - 20 ก.พ. ขณะที่จำนวนของผู้ที่มาบริจาคเลือดยังคงมีจำกัด เนื่องจากประชาชนหลีกเลี่ยงการออกนอกสถานที่ ยกเว้นว่า จะมีกิจกรรมที่จำเป็นต้องทำเท่านั้น
ด้วยความกังวลว่า สถานการณ์ปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อสต็อกเลือด สภากาชาดญี่ปุ่นจึงได้เรียกร้องให้ประชาชนออกมาบริจาคเลือด โดยผู้ที่ต้องการบริจาคเลือดสามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสและฝูงชนได้ด้วยการจองเวลากับศูนย์บริจาคเลือดได้