บริษัทคาเร็กซ์ ผู้ผลิตถุงยางอนามัยรายใหญ่ที่สุดของโลกในมาเลเซีย เปิดเผยว่า ทั่วโลกกำลังจะเผชิญกับภาวะขาดแคลนถุงยางอนามัย หลังจากที่มาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลมาเลเซียเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทต้องปิดโรงงานผลิตถุงยางอนามัย 3 แห่งในมาเลเซียมาเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว
การปิดโรงงานผลิต 3 แห่งดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมาทำให้บริษัทขาดแคลนถุงยางอนามัยถึง 100 ล้านชิ้นแล้วที่จะต้องส่งมอบให้กับระบบสาธารณสุขของรัฐ อาทิ ระบบบริการด้านสาธารณสุขของอังกฤษ หรือโครงการช่วยเหลือต่างๆ ที่ต้องนำถุงยางไปแจกจ่าย อาทิ กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ
ทั้งนี้ บริษัทคาเร็กซ์เป็นผู้ผลิตถุงยางอนามัย 1 ในทุกๆ 5 ชิ้นทั่วโลก และส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลกภายใต้แบรนด์ดูเร็กซ์
คาเร็กซ์เปิดเผยว่า บริษัทได้รับอนุญาตให้เริ่มการผลิตอีกครั้งเมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) ภายใต้มาตรการยกเว้นพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมที่สำคัญ แต่บริษัทสามารถใช้แรงงานผลิตได้เพียง 50% เท่านั้นจากจำนวนแรงงานทั้งหมด
นายโกะห์ เมียห์ เกียต ซีอีโอของคาเร็กซ์เปิดเผยว่า "เรากำลังจะเห็นการขาดแคลนถุงยางอนามัยในทุกๆ ที่ทั่วโลก ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่ากลัว ผมกังวลว่า โครงการด้านมนุษยธรรมจำนวนมากในแอฟริกา จะเผชิญกับภาวะขาดแคลนถุงยางอนามัย ไม่ใช่แค่เพียง 2 สัปดาห์หรือ 1 เดือน แต่อาจจะนานหลายเดือน"
มาเลเซียเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ 2,161 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 26 ราย ขณะที่มาตรการล็อกดาวน์จะยังคงดำเนินต่อไปอย่างน้อยจนถึงวันที่ 14 เม.ย.นี้