เหล่าผู้นำธุรกิจในญี่ปุ่นต่างขานรับแผนการของรัฐบาลที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตเมืองบางพื้นที่ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
นายฮิโรอากิ นากานิชิ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น หรือ เคดันเรน ซึ่งเป็นองค์กรภาคธุรกิจที่มีอิทธิพลมากที่สุดของญี่ปุ่น กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินควรมีขึ้นก่อนที่ระบบสาธารณสุขจะพังลง
"หากมีการประกาศ ภาครัฐและภาคเอกชนจะได้รวมพลังกัน และจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่"
ขณะเดียวกัน นายนากานิชิได้เรียกร้องให้รัฐบาลสร้างความมั่นใจว่า บริการที่จำเป็นและโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญจะยังคงดำเนินไปได้ ท่ามกลางการต่อสู้กับการแพร่ระบาดที่คาดว่าจะยังคงต้องใช้เวลาอีกยาวนาน
ด้านนายฮิโรชิ มิกิตานิ ซีอีโอบริษัทราคูเท็น ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของญี่ปุ่น ในฐานะผู้แทนอำนวยการของสมาคมเศรษฐกิจใหม่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ประกอบไปด้วยบริษัทเทคโนโลยี เป็นผู้หนึ่งที่เรียกร้องให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
ทางสมาคมได้เรียกร้องให้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งให้การสนับสนุนทางเศรษฐกิจแก่ประชาชนและธุรกิจ โดยได้มีการออกแถลงการณ์เรียกร้องเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่มีการรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในโตเกียวมากกว่า 100 คนเป็นครั้งแรก
ขณะที่เคนโกะ ซาดุระดะ ประธานสมาคมซีอีโอญี่ปุ่น ได้แสดงการสนับสนุนการตัดสินใจนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เช่นกัน โดยกล่าวว่า ญี่ปุ่นอยู่ในสถานการณ์วิกฤตที่ซึ่งหลายชีวิตอาจอยู่ในความเสี่ยง
ทั้งนี้ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เขากำลังเตรียมการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในญี่ปุ่น
นายอาเบะเปิดเผยต่อที่ประชุมพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ว่า คาดว่าจะมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันพรุ่งนี้ โดยจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 6 พ.ค. ครอบคลุมพื้นที่กรุงโตเกียว โอซาก้า และอีก 5 จังหวัด