แบบจำลองใหม่จากการวิจัยการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยมหาวิทยาลัยวอชิงตัน คาดการณ์ว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังเข้ารับการรักษาอยู่ในสหรัฐ จะถึงจุดสูงสุดประมาณวันที่ 20 เม.ย. ซึ่งถือเป็นหลักไมล์สำคัญที่บ่งชี้ความต้องการทรัพยากรทางการแพทย์
"เราคาดการณ์ว่า สหรัฐจะถึงจุดดังกล่าวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า" คา-คิต ถัง ศาสตราจารย์สาขาวิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ประจำมหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าว "จุดดังกล่าวจะเป็นจุดที่ตึงเครียดสูงสุดต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพและการแพทย์ระดับประเทศ"
สำหรับสหรัฐนั้น แบบจำลองดังกล่าวคาดการณ์ว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังเข้ารับการรักษาอยู่ ซึ่งหมายถึงบุคคลที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโควิด-19 แต่ยังไม่หายดีหรือเสียชีวิตนั้น จะอยู่ที่จุดสูงสุดในวันที่ 20 เม.ย. บวกลบ 4 วัน จากนั้นตัวเลขดังกล่าวจะค่อย ๆ ลดลง เมื่อจำนวนผู้ป่วยที่เข้าระบบการแพทย์นั้นน้อยกว่าผู้ป่วยที่ออกจากระบบ
แบบจำลองดังกล่าวคาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดในสหรัฐจะลดระดับลงในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมิ.ย. โดยคาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อรวมกัน 710,000 ราย แต่ก็อาจมากถึง 990,000 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 28,000 ราย แต่ก็อาจมากถึง 39,000 ราย หากอัตราการเสียชีวิตของสหรัฐในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 4% ยังคงเป็นเช่นนั้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แบบจำลองดังกล่าวยังพบว่าแต่ละประเทศจะใช้เวลาจัดการกับการแพร่ระบาดมากน้อยแตกต่างกัน โดยเยอรมนีและอิตาลีจะใช้เวลานานกว่าเมืองอู่ฮั่นหนึ่งอาทิตย์กว่าจะถึงจุดที่วกกลับในแง่ของจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่กำลังรักษาตัว ส่วนสหรัฐน่าจะใช้เวลานานกว่าเมืองอู่ฮั่นสองอาทิตย์ เนื่องจากสหรัฐไม่ได้สั่งล็อกดาวน์ แม้ว่าหลาย ๆ รัฐได้มีคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านแล้วก็ตาม