นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกโรงเตือนประเทศต่าง ๆ ไม่ให้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไปนัก เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
นายแพทย์ทีโดรส กล่าวว่า แม้ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะมีอัตราเร่งที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อใดที่การระบาดชะลอตัวลง การชะลอตัวจะเป็นไปอย่างล่าช้ามากกว่าช่วงการระบาด โดยการระบาดของโควิด-19 นั้น แพร่ระบาดรวดเร็วและอันตรายกว่ากรณีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่
ผอ. WHO กล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ ควรผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างค่อยเป็นค่อยไป และไม่ควรจะผ่อนคลายมาตรการพร้อมกัน นอกจากนี้ ยังคงมีการใช้มาตรการแกะรอยผู้ติดเชื้อที่เหมาะสมด้วย
นายแพทย์ทีโดรสระบุว่า ประเทศที่จะผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด เช่น มาตรการล็อกดาวน์ หรือเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ควรมีเงื่อนไขต่าง ๆ ได้แก่ ความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศ, มีระบบเฝ้าระวังเพื่อตรวจสอบและแยกตัวผู้ติดเชื้อ, อัตราการแพร่ระบาดในโรงพยาบาลและสถานดูแลผู้สูงอายุอยู่ในระดับที่ต่ำมาก, มีมาตรการป้องกันในสถานที่สำคัญต่าง ๆ และควบคุมความเสี่ยงจากผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าเมืองจากต่างประเทศได้
คำพูดดังกล่าวมีขึ้นหลังนักการเมืองสหรัฐตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ไปจนถึงนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า ตนเองหวังที่จะอนุญาตให้ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจได้อีกครั้ง ทันทีที่เห็นว่าสถานการณ์มีความปลอดภัยที่เพียงพอ
นอกจากนี้ หลายประเทศในยุโรปเองก็เตรียมที่จะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชะลอตัวลง โดยออสเตรียเตรียมผ่อนคลายมาตรการห้ามประชาชนเดินทางออกนอกประเทศ และเตรียมเปิดร้านค้าและภาคธุรกิจในช่วงกลางเดือนนี้ ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์เตรียมประกาศมาตรการผ่อนคลายในช่วงสิ้นเดือนนี้