YouGov บริษัทวิจัยสัญชาติอังกฤษเปิดเผยผลการสำรวจล่าสุด พบว่า มีชาวญี่ปุ่นแค่เพียง 18% ที่ไม่เดินทางออกไปทำงาน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด- 19) ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนที่อยู่ในระดับต่ำสุดในบรรดา 26 ประเทศและดินแดนที่เข้าร่วมการสำรวจครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจพบว่า มีชาวญี่ปุ่นที่ร่วมตอบแบบสำรวจถึง 87% รู้สึกกลัวว่าจะติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากอัตราส่วน 66% ในการสำรวจเมื่อเดือนมี.ค.
YouGov ระบุว่า มีฟินแลนด์เพียงประเทศเดียวที่มีอัตราส่วนของผู้ที่ไม่เดินทางไปทำงานเนื่องจากโควิด-19 ในระดับต่ำเช่นเดียวกันญี่ปุ่น ขณะที่เวียดนามเป็นประเทศที่มีคนกลัวว่าจะติดเชื้อมากที่สุดถึง 89%
ผู้ร่วมการสำรวจจากอินเดียและมาเลเซีย 68% ระบุว่า พวกเขาต้องทำงานจากที่บ้าน ขณะที่ผู้ที่ต้องทำงานที่บ้านในฟิลิปปินส์อยู่ที่ 66% และจีนอยู่ที่ 56% ส่วนผู้ตอบแบบสำรวจในสหรัฐมี 32% ที่กล่าวว่าพวกเขาทำงานที่บ้าน
เป็นที่น่าสังเกตว่า อัตราการทำงานทางไกลของชาวญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับต่ำ แม้นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ จะประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและอีก 6 จังหวัด เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น
ด้านบริษัท Nippon Research Center ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยที่ตั้งอยู่ในโตเกียวได้ทำการสำรวจพฤติกรรมผู้คนในช่วงวันที่ 13 มี.ค.-13 เม.ย. พบว่า "ประชาชนในหลายประเทศเลี่ยงที่จะเดินทางออกไปทำงานนอกบ้านกันมากขึ้น เนื่องจากคำสั่งให้อยู่บ้านและการบังคับใช้มาตรการอื่นๆ"
สำหรับมาตรการรับมือโควิด-19 ของญี่ปุ่นนั้น ไม่ได้มีผลผูกพันทางกฎหมาย ในขณะที่พนักงานอีกจำนวนมากยังคงต้องเดินทางไปทำงานต่อไป เนื่องจากปัญหาความยากลำบากในการทำงานจากระยะไกล
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า YouGov ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 27,00 คนใน 26 ประเทศและดินแดน ในยุโรป, อเมริกา, เอเชียแปซิฟิก และตะวันออกกลาง