นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประกาศผ่อนคลายมาตรการอันเข้มงวดที่เคยนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในเยอรมนี แต่จะยังคงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและกฎด้านสุขอนามัยไว้ตามเดิม
นางแมร์เคิลกล่าวว่า "ฉันคิดว่าเราได้ผ่านเฟสแรกของการแพร่ระบาดไปแล้ว"
นางแมร์เคิลระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากสถาบันโรเบิร์ต คอช (RKI) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลเยอรมนีที่ทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อนั้น น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก และประชาชนเยอรมนีใช้ชีวิตอย่างมีความรับผิดชอบและช่วยเหลือผู้อื่น
นางแมร์เคิลยืนยันว่า กลไกฉุกเฉินจะยังทำงาน หากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในอัตราส่วนมากกว่า 50 คนต่อประชากร 100,000 คน ภายใน 7 วันในบางภูมิภาค โดยถ้าหากพบผู้ติดเชื้อในอัตราดังกล่าว รัฐที่เกิดการระบาดจะต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิม แม้ว่าแต่ละรัฐจะได้รับอนุญาตให้ตัดสินใจว่าจะใช้มาตรการแบบใดก็ตาม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นางแมร์เคิลยังกล่าวด้วยว่า มาตรการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร และต้องใส่หน้ากากในสถานที่ที่กำหนด เช่น ขนส่งสาธารณะนั้น จะยังคงบังคับใช้ต่อไป ส่วนคำสั่งห้ามการสัมผัสกันในเยอรมนีจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 5 มิ.ย.