นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานของสหรัฐมีแนวโน้มย่ำแย่ลงก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น โดยคาดว่า อัตราว่างงานในปัจจุบันมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 25%
นายมนูชินกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมากในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ แต่การที่สหรัฐให้ความสำคัญกับการเปิดเศรษฐกิจ ก็อาจทำให้ภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นในไตรมาสที่ 3
"อัตราว่างงานมีแนวโน้มย่ำแย่ลงก่อนจะกลับมาดีขึ้น" นายมนูชินกล่าว อย่างไรก็ดี นายมนูชินกล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะเป็นผลมาจากการปิดกิจการของภาคธุรกิจเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่งลง 20.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งทำให้ตัวเลขจ้างงานในช่วงสิบปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก (Global Financial Crisis) ต้องสะดุดลง และส่งผลให้อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 14.7%
นายมนูชินเตือนว่า สหรัฐอาจเผชิญกับความเสียหายทางเศรษฐกิจแบบถาวรหากไม่กลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง อย่างไรก็ดี นายมนูชินยังหวังด้วยว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้