สายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ หรือ ANA หนึ่งในสายการบินยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศมาตรการบังคับให้ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ภายในสนามบินและขึ้นเครื่องบิน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนถึงการที่อุตสาหกรรมการบินจะต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้เข้ากับชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal หลังการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
สายการบิน ANA ระบุว่า หากผู้โดยสารคนใดปฏิเสธ ทางสายการบินจะไม่อนุญาตให้ขึ้นเครื่อง ซึ่งมาตรการของ ANA นับว่ามีความเข้มงวดกว่าแนวปฏิบัติของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบิน ซึ่งกำหนดไว้ว่า "ขอความร่วมมือ" จากผู้โดยสารให้สวมหน้ากากอนามัย
ANA ยังระบุด้วยว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะต้องสวมหน้ากากอนามัย ส่วนเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินจะต้องสวมหน้ากากเฟสชีลด์ นอกจากนี้ ANA รวมถึงสายการบินใหญ่หลายแห่ง ยังได้ติดตั้งฉากกั้นพลาสติกที่เคาน์เตอร์เช็กอินด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อุตสาหกรรมการบินได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้บรรดาสายการบินต่างตื่นตัวที่จะดึงธุรกิจให้กลับมาคึกคัก ด้วยการลดความกังวลของผู้โดยสารเรื่องการติดเชื้อ แม้จะต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดกว่าที่มีการเสนอแนะไว้ก็ตาม
ด้านสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAL) และสกายมาร์กแอร์ไลน์ ระบุว่า ทางสายการบินจะจัดที่นั่งให้ผู้โดยสารนั่งห่างกัน เพื่อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม โดย JAL ระบุว่า มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการชั่วคราว เพื่อคลายความกังวลของผู้โดยสารจากการที่ต้องอยู่ในระยะใกล้ชิดกับผู้โดยสารคนอื่นๆ