ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ประกาศชัยชนะครั้งแรกในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) พร้อมประกาศให้ทั่วทุกแคว้นฝรั่งเศสกลับสู่สภาวะปกติ ยกเว้นดินแดนโพ้นทะเลที่อยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส
นายมาครงกล่าวต่อประชาชนผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศ ในวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ว่า "ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ 15 มิ.ย.) เป็นต้นไป เราจะสามารถเริ่มต้นก้าวใหม่ในการรับมือกับวิกฤตที่เราเพิ่งผ่านพ้นมาได้ ก้าวใหม่ที่จะเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้จะเร่งให้เราฟื้นตัวได้เร็วขึ้น"
ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวว่า ฝรั่งเศสจะยกเลิกข้อจำกัดที่ยังมีผลบังคับใช้ในแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์ ซึ่งเป็นแคว้นที่ได้รับการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ช้าที่สุด โดยจะอนุญาตให้บาร์ คาเฟ่ และร้านอาหารในแคว้นสามารถกลับมาเปิดรับลูกค้าได้อีกครั้ง
ขณะที่สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียน และวิทยาลัย จะกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 มิ.ย. พลเมืองยุโรปจะสามารถเดินทางเข้าดินแดนของฝรั่งเศสได้โดยไม่มีข้อจำกัด อย่างไรก็ดี ผู้ที่อยู่นอกเขตเชงเก้นจะต้องรอจนถึงวันที่ 1 ก.ค.
นอกจากนี้ ประชาชนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าเยี่ยมบ้านพักคนชราได้ และการเลือกตั้งท้องถิ่นรอบสองจะมีขึ้นในวันที่ 28 มิ.ย. อย่างไรก็ตาม การชุมนุมขนาดใหญ่จะยังคงถูกควบคุมอย่างเข้มงวด แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดจะดีขึ้นแล้วก็ตาม
"เรายังต้องอยู่กับโควิด-19 ไปอีกนาน ขอให้ทุกคนเคารพมาตรการเว้นระยะห่าง และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดเพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดการแพร่ระบาดรุนแรงขึ้นอีก" ปธน.มาครงเตือน
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศสรายงานว่า ข้อมูลล่าสุด ณ วันเสาร์ที่ผ่านมา ฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มอีก 24 ราย ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 29,398 ราย