นายจัดด์ เดียร์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่เปลี่ยนแปลงแผนการเดินทางไปยังรัฐนิวเจอร์ซีย์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แม้ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์มีคำสั่งให้ผู้ที่เคยเดินทางไปยังรัฐต่างๆ ที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระดับสูง จะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันเมื่อเดินเข้าไปยังรัฐนิวเจอร์ซีย์ก็ตาม
"ประธานาธิบดีไม่ใช่พลเมืองทั่วไป" นายเดียร์กล่าวเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ปธน.ทรัมป์จะปฏิบัติตามคำสั่งกักตัวหรือไม่ หลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เขาเดินทางไปยังรัฐแอริโซนาซึ่งมีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น
"ทุกคนที่ทำงานใกล้ชิดกับปธน.ทรัมป์ ซึ่งรวมถึงพนักงาน แขกของประธานาธิบดี และสื่อมวลชน ต่างก็เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และมีผลยืนยันออกมาเป็นลบ" นายเดียร์กล่าว
โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า เมื่ออยู่ในรัฐแอริโซนา ทางทำเนียบขาวได้ดำเนินการตามแผนควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อรับประกันว่า ปธน.ทรัมป์ไม่ได้สัมผัสกับผู้ที่แสดงอาการป่วย หรือผู้ที่ไม่ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ
ส่วนผู้ที่จะเดินทางไปกับคณะของปธน.ทรัมป์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะถูกติดตามตรวจสอบอาการอย่างใกล้ชิด และต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ดังนั้นจึงแทบไม่มีความเสี่ยงกับประชาชนในท้องถิ่น
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ หลังจากนายฟิล เมอร์ฟีย์ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ประกาศเมื่อวานนี้ว่า ผู้ที่เดินทางมาจากรัฐอื่นๆ ที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากนั้น จะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์เมื่อเดินทางเข้าไปในรัฐนิวเจอร์ซีย์ และผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจะต้องเสียค่าปรับ