นายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะลงทุน 2.7 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.865 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 10 ปีข้างหน้า เพื่อยกระดับกองกำลังป้องกันเพื่อเตรียมพร้อมกับโลกที่ยากจน และอันตรายมากขึ้น หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ นายมอร์ริสันยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะใช้งบ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อขีปนาวุธต่อต้านเรือรบระยะไกลจากสหรัฐ เพื่อรักษาความมั่นคง และยับยั้งหรือตอบโต้ต่อความรุนแรงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
"แม้ขณะที่เรากำลังรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ เราก็จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับโลกหลังโควิด ซึ่งจะมีความยากจนมากขึ้น อันตรายมากขึ้น และไร้ระเบียบกว่าเดิม" นายมอร์ริสันกล่าว
นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังจะเสริมกำลังพลอีก 800 นาย โดยส่วนใหญ่จะเข้าร่วมกับกองทัพเรือ
นโยบายการป้องกันฉบับใหม่ จะให้ความสำคัญกับความมั่นคงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการต่อสู้เชิงกลยุทธ์ที่รุนแรงขึ้น เช่น ความตึงเครียดบริเวณพรมแดนอินเดียและจีน
นายมอร์ริยันยังอธิบายด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐค่อนข้างจะเปราะบาง ขณะที่การพัฒนากลยุทธ์การป้องกันประจำปี 2563 ของออสเตรเลียระบุว่า การแข่งขันระหว่างทั้งสองประเทศมหาอำนาจเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของกลยุทธ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
"เราต้องการอธิปไตยในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เปิดกว้าง เป็นอิสระจากการบีบบังคับและการใช้อำนาจครอบงำ เราต้องการภูมิภาคที่ทุกประเทศไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ สามารถมีส่วนร่วมกับอีกฝ่ายได้โดยอิสระภายใต้กฎระเบียบข้อบังคับสากล" นายมอร์ริสันกล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน