ผู้มีอิทธิพลและคนดังหลายรายในสหรัฐ รวมถึงนายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้, นายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของสหรัฐ ได้ถูกแฮกเกอร์เจาะเข้าบัญชีทวิตเตอร์เพื่อขอให้มีการโอนเงินคริปโตเคอเรนซี
บัญชีที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ยังรวมถึงบัญชีทวิตเตอร์ของนายบิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟต์, นายเจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทอเมซอน, นายไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีเจ้าพ่อสื่อและอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ตลอดจนบัญชีทางการของ บริษัทอูเบอร์ เทคโนโลยี และบริษัทแอปเปิล
สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวานนี้เมื่อเวลาประมาณ 03.15 น. ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก (17.15 น. ตามเวลาไทย) โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า แฮกเกอร์ได้พยายามเข้าถึงบัญชีของบุคคลสำคัญหลายรายผ่านทางเว็บบราวเซอร์ Twitter.com ส่งผลให้ทวิตเตอร์ต้องปิดกั้นการเข้าถึงบัญชีที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นบัญชีของบุคคลสาธารณะ (verified account) ทั้งหมดบนแพลตฟอร์มในทันที ก่อนจะเปิดให้ใช้งานได้อีกครั้งในเวลา 05.41 น. ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก (19.41 น. ตามเวลาไทย)
สำนักข่าวฟอกซ์นิวส์รายงานว่า บนทวิตเตอร์ของนายโจ ไบเดน มีข้อความระบุว่า "เมื่อผมกลับเข้ามาในทวิตเตอร์ บิตคอยน์ทั้งหมดที่ถูกโอนมายังบัญชีด้านล่าง จะถูกโอนกลับไปให้ผู้ที่โอนมาเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ข้อเสนอนี้มีระยะเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น"
ทีมหาเสียงของนายไบเดนได้ออกมาเปิดเผยหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ทวิตเตอร์ได้ทำการระงับบัญชีของนายไบเดนในทันที และ "เรากำลังประสานกับทวิตเตอร์ในเรื่องนี้"
นอกจากบัญชีทวิตเตอร์ของนายไบเดนแล้ว ยังพบว่าบัญชีทวิตเตอร์ของนายอีลอน มัสก์ ก็ปรากฏข้อความเชิญชวนขอให้บริจาคเงินบิตคอยน์ในลักษณะดังกล่าวเช่นเดียวกัน
ด้านทวิตเตอร์ได้มีการโพสต์ข้อความถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า บริษัทมีความตระหนักในเรื่อง "สถานการณ์ความปลอดภัย" ที่ส่งผลกระทบต่อเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม เพียงแต่ระบุว่า "เรากำลังตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่"
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นก็ออกมารายงานว่า สิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อบัญชีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ของบุคคลที่ทรงอิทธิพลหลายรายในสหรัฐ นับเป็นเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวิตเตอร์
ทั้งนี้ มีรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติบนบล็อกเชนที่เปิดให้สาธารณชนเข้าถึงได้นั้นพบว่า แฮกเกอร์ได้รับบิตคอยน์จากการกระทำครั้งนี้ไปเป็นมูลค่ากว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ทวิตเตอร์กล่าวว่า ผู้ใช้อาจไม่สามารถใช้งานทวิตเตอร์หรือรีเซ็ตพาสเวิร์ดในระหว่างที่บริษัทกำลังตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้
ขณะที่ในบัญชี @TwitterSupport มีการระบุข้อความ เมื่อเวลา 07.41 น.ของวันที่ 16 ก.ค.ว่า บัญชีผู้ใช้ส่วนใหญ่จะสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เพราะเรากำลังรีบดำเนินการแก้ไข ปัญหานี้เกิดขึ้นและหมดไปแล้ว เราจะรีบดำเนินการเพื่อให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด