นายรีม อบาซา โฆษกของนายทิจจานี มูฮัมหมัด-บานเด ประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า บรรดาผู้นำประเทศต่างๆ จะไม่เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมประจำปีของสมัชชาใหญ่ที่นิวยอร์กในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ระยะ 75 ปีของ UN อันเนื่องมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายอบาซาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า การอภิปรายโดยทั่วไปในที่ประชุมดังกล่าวในปีนี้ ซึ่งปกติเป็นเวทีที่ผู้นำระดับสูงจากประเทศต่างๆ มารวมตัวกันนั้น จะถูกปรับรูปแบบให้เล็กลง โดยที่ผู้นำประเทศไม่ต้องเดินทางไปที่นิวยอร์ก แต่จะทำการแถลงสุนทรพจน์ผ่านทางวิดีโอแทน
ทั้งนี้ UN จัดการประชุมในรูปแบบออนไลน์ขึ้น เนื่องจากยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหลายประเทศยังคงเผชิญกับวิกฤตด้านสาธารณสุข, สังคม และผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคระบาดดังกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ถึงแม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในนิวยอร์กได้ลดลงอย่างมาก หลังจากที่เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วสหรัฐยังอยู่ที่ราว 4 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในโลก
นายอบาซากล่าวว่า ประเทศสมาชิก, ประเทศผู้สังเกตการณ์ และสหภาพยุโรป (EU) ได้รับคำเชิญให้ส่งวิดีโอบันทึกการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เป็นผู้แทน เพื่อนำไปเปิดในหอประชุมของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
นายอบาซาระบุเสริมด้วยว่า หอประชุมจะไม่ว่างเปล่า โดยผู้แทนของแต่ละประเทศในที่ประชุมจะเป็นผู้นำเสนอวิดีโอของประเทศตนเอง