นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาว เตือนว่า หลายรัฐในสหรัฐ รวมทั้งโอไฮโอ เทนเนสซี เคนทักกี และอินเดียนาควรตื่นตัวเพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นเหมือนกับที่เกิดขึ้นในรัฐทางตอนใต้และตะวันตกของสหรัฐ
นายแพทย์ฟอซีกล่าวระหว่างประชุมทางโทรศัพท์ร่วมกับบรรดาผู้ว่าการรัฐว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อไม่ให้เป็นเหมือนที่แล้วมา
ก่อนหน้านี้ นายแพทย์ฟอซีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC ว่า รัฐโอไฮโอ เทนเนสซี เคนทักกี และอินเดียนา เริ่มมีเปอร์เซ็นต์ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลนี้มีเค้าลางที่เป็นไปได้ว่า รัฐเหล่านี้อาจเจอวิกฤตอย่างที่รัฐทางใต้เผชิญกันมาแล้ว
นอกจากนี้ นายแพทย์ฟอซีได้เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ MSNBC ว่า การยึดถือหลักปฏิบัติ 5 ข้อจะช่วยยับยั้งการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิด ซึ่งข้อปฏิบัติดังกล่าวนั้น ประกอบด้วยการสวมหน้ากากอนามัย การหลีกเลี่ยงอยู่ในที่ที่มีฝูงชนแออัด การเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 6 ฟุต การรักษาสุขอนามัย หลีกเลี่ยงการเข้าผับบาร์ หรือเข้าใกล้สถานที่ดังกล่าว
"หากเราไม่เริ่มปฏิบัติตามกฎที่ค่อนข้างเคร่งครัดทั้ง 5 ข้อที่ผมพูดไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็คือ รัฐที่ยังไม่เกิดวิกฤติ อาจจะต้องพบกับวิกฤติ" นายแพทย์ฟอซีกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การออกมาเตือนของนายแพทย์ฟอซีเกิดขึ้นหลังจากที่ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐทะลุ 150,000 รายเมื่อวานนี้